มัทฉะเป็นผงชาเขียวที่บดละเอียด ส่วนใหญ่จะเป็นชาเขียวอินทรีย์ ปราศจากสารเคมี ชามัทฉะนี้เป็นชาเขียวที่เป็นหัวใจสำคัญของพิธีชงชาญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 900 ปี บ้างก็บอกว่าชามัทฉะเป็นยาสุขภาพสำหรับบรรเทาโรคเบาหวาน เพราะมีความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระและยังสามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารได้อีกด้วย


มัทฉะมีสารอาหารจากใบชาทั้งหมด ซึ่งส่งผลให้มีคาเฟอีนและสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงกว่าที่พบในชาเขียวทั่วไป จากการศึกษามัทฉะและส่วนประกอบได้พบประโยชน์ที่แสดงให้เห็นว่ามันสามารถช่วยปกป้องตับ ส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ และยังช่วยในการลดน้ำหนัก


ประโยชน์ของชาเขียวมัทฉะ


1. สารต้านอนุมูลอิสระสูง


มัทฉะอุดมไปด้วยแคทีชิน ซึ่งเป็นสารประกอบของพืชในชาที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ สารต้านอนุมูลอิสระช่วยรักษาเสถียรภาพอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย ซึ่งเป็นสารประกอบที่สามารถทำลายเซลล์และทำให้เกิดโรคเรื้อรัง เมื่อคุณใส่ผงมัทฉะลงในน้ำร้อนเพื่อทำชา ชาจะมีสารอาหารจากใบทั้งหมด มีแนวโน้มที่จะมีแคทีชิน และสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าเพียงใบชาเขียวที่แช่อยู่ในน้ำ ในความเป็นจริงแล้วจากการประมาณหนึ่งครั้ง จำนวนคาเทชินในมัทฉะจะสูงกว่าชาเขียวประเภทอื่นถึง 137 เท่า และการศึกษาหนึ่งพบว่าการให้อาหารเสริมมัทฉะสำหรับหนู หนูลดความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระและเพิ่มประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระ การเพิ่มมัทฉะในอาหารของคุณสามารถเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายชนิด


2. ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว


การบริโภคมัทฉะในรูปแบบของเครื่องดื่มและอาหาร อาจช่วยให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวได้ เนื่องจากใบชาที่นำมาทำเป็นผงมัทฉะจะมีปริมาณคาเฟอีนที่ค่อนข้างสูง และยังมีสารแอล–ธีอะนีน (L–theanine) ที่อาจช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ควบคุมความเครียด บรรเทาอาการอ่อนเพลียที่อาจเกิดขึ้นหลังจากดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน โดยมีงานวิจัยพบว่าการได้รับสารแอล–ธีอะนีนร่วมกับคาเฟอีนในปริมาณที่เหมาะสม อาจช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและทำงานได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรควบคุมปริมาณการบริโภคหรือดื่มมัทฉะให้เหมาะสม โดยจำกัดปริมาณการดื่มไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน (474 มิลลิลิตร) และหลีกเลี่ยงการดื่มมัทฉะใกล้เวลาเข้านอนหรือห่างจากเวลาเข้านอนประมาณ 6 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้นอนไม่หลับได้


3. ควบคุมโรคเบาหวานชนิดที่ 2


ผงชาเขียวมัทฉะอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการลดระดับไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอลและน้ำตาลกลูโคสในตับในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ยับยั้งความเสียหายของไตและตับ โดยการลดการสะสมของน้ำตาลในเลือดที่ทำปฏิกิริยาต่อโปรตีนมีผลทำให้โปรตีนผิดรูป


4. ดีทอกซ์ร่างกายด้วยผงชาเขียวมัทฉะ


คลอโรฟิลล์ที่มีอยู่ในชามัทฉะ เน้นประสิทธิภาพในกระบวนการทำความสะอาดของร่างกาย คลอโรฟิลล์เป็นสารกำจัดพิษที่ดีเยี่ยม ซึ่งช่วยในการทำความสะอาดเลือด ช่วยในการรักษาความเป็นด่างของเลือดและเนื้อเยื่อ นอกจากนี้ ยังช่วยในการป้องกันความสัมพันธ์ของสารพิษ ที่เป็นอันตรายกับผนังลำไส้ใหญ่ และขับของเสียออกจากร่างกาย


5. ป้องกันการติดเชื้อ


ชามัทฉะมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราต่าง ๆ เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสเริม ป้องกันการติดเชื้อ HIV. จากคุณสมบัติของสารประกอบหลัก EGCG. (สารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในชาเขียว) แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการซึมผ่านของสารออกฤทธิ์สำคัญ ที่ยาต้านไวรัสที่มีจำหน่ายในท้องตลาดไม่สามารถทำได้


การที่จะมีสุขภาพดีได้นั้น นอกจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีประโยชน์แล้ว ควรคำนึงถึงปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น รับประทานอาหารให้หลากหลายเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน พักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นต้นf