กล่าวได้ว่าขนมอีกอย่างหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ชอบกิน คือโดนัท (Doughnut, Donut) เป็นขนมแป้งทอดหรืออบ ที่มีเนื้อคล้ายกับขนมเค้ก มีลักษณะกลมมีรูตรงกลางคล้ายกับห่วงยาง มีหลายรสชาติ โดนัทสามารถแบ่งออกตามกรรมวิธีการผลิตได้เป็น 2 ประเภท คือ โดนัทยีสต์ ซึ่งใช้ยีสต์เป็นส่วนประกอบในการขึ้นฟูของแป้งเฉกเช่นเดียวกับการทำขนมปัง และโดนัทเค้ก ที่อาศัยการขึ้นฟูด้วยผงฟูแทนการใช้ยีสต์ รสชาติและเนื้อสัมผัสของโดนัททั้งสองประเภทจึงมีความแตกต่างกัน
ปัจจุบัน ขนมโดนัทได้ถูกพัฒนาให้มีความหลากหลายทั้งสีสันและรสชาติเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผลิตโดนัทที่เคลือบหน้าขนมด้วยสีสันต่างๆ เพื่อเพิ่มความสวยงาม การนำโดนัทมาคลุกเคล้ากับน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสสัมผัส การสอดไส้ขนมโดนัทด้วยครีมรสชาติต่างๆ เพื่อให้มีรสชาติที่แปลกใหม่ อย่างไรก็ดี มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของขนมโดนัท คือ ขนมโดนัทเป็นขนมมีรู
แล้วทำไม โดนัทต้องมีรูตรงกลาง
คำถามนี้ทำให้ต้องย้อนกลับไปสมัยที่เพิ่งเกิดขนมโดนัทใหม่ๆ สมัยนั้นโดนัทเป็นแป้งทอดรสหวาน มีส่วนผสมสำคัญ คือ แป้งสาลี น้ำตาล ไข่ และไขมันจากเนย ในประเทศเนเธอแลนด์ขนมดังกล่าวยังคงมีรูปร่างเป็นทรงกลมเล็กๆ และไม่ได้ถูกเรียกว่า "โดนัท" อย่างในปัจจุบันด้วย
ขนมโดนัทซึ่งเป็นขนมพื้นเมืองของเนเธอแลนด์เดิมไม่มีรูตรงกลาง บางครั้งโรยน้ำตาลด้วย มีชื่อภาษาดัตช์ที่แปลเป็นไทยได้ว่า ขนมน้ำมัน (oil cake) ต่อมาชาวยุโรปที่อพยพไปสหรัฐอเมริกาในต้นศตวรรษที่17 ได้นำขนมประเภทนี้ไปด้วยเนื่องจากขนมนี้มีรูปร่างกลมเล็กเท่าลูกวอลนัท ชาวนิวอิงแลนด์จึงเรียกขนมนี้ใหม่ว่า โด ซึ่งแปลว่า ก้อนแป้งรูตรงกลาง
รูตรงกลางโดนัทเพิ่งถือกำเนิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 เมื่อนาย แฮนสัน เกรกอรี กัปตันเรือชาวเมืองวัย 16 ปี ชาวเมืองรอคพอท (Rockport) รัฐเมน (Maine) เจาะรูแป้งโดนัทที่มารดากำลังจะทอด เพราะคิดว่าการขยายพื้นผิวหน้าของขนม จะทำให้ทอดได้ง่ายขึ้นและสุกเร็วขึ้น เพราะแต่เดิมนั้น ตรงกลางของโดนัทมักจะแฉะสุกไม่ทั่ว
ซึ่งก็เป็นจริงดังที่เขาคาดไว้โดนัทสุกเร็วขึ้นและสุกทั่วถึง แถมไม่อมน้ำมันอีกด้วย เมื่อเรื่องดังกล่าวขยายออกไป เมืองรอคพอท (Rockport) ก็มีความภาคภูมิใจในรูของโดนัทอย่างมากถึงกับมีการสร้างอนุสาวรีย์เป็นรูปโดนัทที่มีรูไว้เลย ต่อมาได้เรียกขนมดังกล่าวว่า "ขนมโดนัท" โดยคำว่า โด (dough) แปลว่า แป้งผสมน้ำ และคำว่า นัท (nut) แปลว่า หัวน็อต ที่เป็นรู
จนขึ้นแท่นเป็นขนมสุดฮิตในอเมริกา แถมยังเก๋าพอที่จะมีวันพิเศษเป็นของตัวเอง ซึ่งก็คือ วันโดนัทแห่งชาติ หรือวันศุกร์แรกของเดือนมิถุนายนในทุก ๆ ปีอีกด้วย
ขนมโดนัทยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในประเทศไทยเองก็มีร้านขายขนมโดนัทที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Mister Donut, Dunkin’ Donuts, Daddy Dough หรือ Krispy Kreme ซึ่งขนมโดนัทของแต่ละร้านก็มีจุดเด่น รสสัมผัส และราคาที่แตกต่างกัน สนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างลงตัว