น้ำผึ้ง นอกจากจะมีรสชาติหวาน สามารถเพิ่มความอร่อยให้กับอาหารและเมนูขนม ตลอดจนเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ดีแล้ว ประโยชน์ของน้ำผึ้งยังมีอีกมากมายที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เพราะในน้ำผึ้ง อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งประโยชน์ของน้ำผึ้ง จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย


ประโยชน์ของน้ำผึ้ง


1. น้ำผึ้งช่วยดีทอกซ์ร่างกาย


สรรพคุณของน้ำผึ้งข้อแรกที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ก็คือน้ำผึ้งสามารถช่วยดีทอกซ์ร่างกายได้ โดยในน้ำผึ้งมีแบคทีเรียชนิดดีทั้ง “โพรไบโอติกส์” และ “แลคโตบาซิลัส” ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง และสามารถขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้น โดยสูตรการใช้สรรพคุณของน้ำผึ้งในข้อนี้ ขอแนะนำให้ลองนำน้ำผึ้ง ผสมกับน้ำอุ่นและมะนาว ดื่ม 1 แก้วใหญ่ ๆ ตอนเช้าหลังจากตื่นนอน ก่อนจะอาบน้ำแปรงฟัน รับรองว่าจะช่วยให้สามารถขับถ่ายได้ดี รู้สึกโล่งสบายรับยามเช้าแน่นอน


2. แก้โรคนอนไม่หลับ


นักโภชนาการจาก Seattle Sutton's Healthy Eating ชิคาโก แนะนำให้ผู้ที่นอนไม่หลับเป็นประจำกินน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาก่อนเข้านอน 30 นาที ด้วยเหตุผลที่ว่าน้ำผึ้งให้ความหวานกับร่างกาย ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตอินซูลินและหลั่งเซโรโทนิน ฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาได้ จากนั้นเซโรโทนินจะเปลี่ยนตัวเองเป็นเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่พาให้รู้สึกง่วงและรู้สึกอยากนอนหลับ


3. รักษาโรคเบาหวาน


เมื่อป่วยด้วยโรคเบาหวาน แพทย์จะห้ามไม่ให้ทานน้ำตาล หรืออาหารที่มีรสชาติหวานเด็ดขาด แต่สำหรับน้ำผึ้งถือเป็นข้อยกเว้นอย่างหนึ่ง เพราะน้ำผึ้งสามารถรักษาอาการป่วยเบาหวานได้ดี เพียงแค่นำน้ำผึ้ง 250 กรัม มาผสมกับสาลี่หอมที่ตำละเอียดแล้ว 5 ลูก จากนั้นต้มจนเหนียวแล้วนำมาผสมกับน้ำดื่มเป็นประจำ ก็จะทำให้อาการป่วยเบาหวานค่อย ๆ ทุเลาลง และหายเร็วยิ่งขึ้นเมื่อทำการรักษาควบคู่ไปกับการรักษาทางแพทย์


4. น้ำผึ้งช่วยบรรเทาอาการหวัดและเจ็บคอ


อย่างที่รู้กันดีว่าสรรพคุณของน้ำผึ้งในทางยานั้นมากมาย สรรพคุณของน้ำผึ้งที่นิยมมาใช้กันนั่นก็คือช่วยเพิ่มความชุ่มคอในช่วงที่มีอาการเจ็บคอ แต่รู้หรือไม่ว่าสรรพคุณทางยาของน้ำผึ้งนั้นยังสามารถช่วยบรรเทาอาการหวัดได้อีกด้วย เพราะน้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อได้ด้วย หากเริ่มมีอาการหวัด และเจ็บคอเมื่อไหร่อย่าลืมนึกถึงสรรพคุณของน้ำผึ้งที่ช่วยบรรเทาอาการได้ เพียงแค่ผสมกับน้ำอุ่นและค่อย ๆ จิบทั้งวัน รับรองว่าช่วยได้แน่นอน


5. ป้องกันโรคข้ออักเสบ


เมื่ออายุมากขึ้น หรือทำงานที่ต้องยกของหนัก ๆ ก็มักจะเสี่ยงโรคข้ออักเสบได้สูง ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการทานน้ำผึ้งเช่นกัน โดยให้นำน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนชามาผสมลงไปในน้ำอุ่น 1 แก้ว ดื่มเป็นประจำทุกวันวันละ 2 ครั้ง อาการข้ออักเสบจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน แถมช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลังได้อีกด้วย


6. เติมพลังให้ร่างกาย


น้ำผึ้งแค่เพียง 1 ช้อนโต๊ะก็มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตราว 17 กรัม ซึ่งก็เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่อุดมไปด้วยกลูโคสและฟรุกโตสจากธรรมชาติแท้ ๆ ดังนั้นร่างกายจึงสามารถดูดซึมพลังงานเหล่านี้เข้าเส้นเลือดได้อย่างรวดเร็ว บูสต์พลังให้หายจากอาการเพลียหรืออาการเหนื่อยล้าหลังออกกำลังหนัก ๆ ได้ชะงัด


ถึงแม้ว่าประโยชน์ของน้ำผึ้งจะมีมากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีโทษเหมือนกัน จึงควรทานน้ำผึ้งในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้น โดยผลเสียจากการทานน้ำผึ้งมากเกินไป ได้แก่


• เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย เพราะในน้ำผึ้งมีปริมาณของน้ำตาลฟรุกโตสอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งน้ำตาลตัวนี้ จะทำให้เกิดปัญหาการดูดซึมในลำไส้ เป็นผลให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง หรือท้องเสียบ่อย ๆ ได้นั่นเอง ดังนั้นการทานน้ำผึ้งในแต่ละครั้ง จึงควรทานทีละน้อย ๆ เท่านั้น


• เสี่ยงโรคโบทูลิซึ่ม ซึ่งเกิดจากสปอร์ของเชื้อโรคที่มีอยู่ในน้ำผึ้ง จึงห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบทาน รวมถึงสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ และให้นมบุตรด้วย โดยโรคนี้มีความอันตรายสูงมาก เพราะจะทำให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาทอย่างเฉียบพลันนั่นเอง