ในฤดูร้อนเป็นช่วงที่เหมาะแก่การกินแตงโมที่สุด เพราะช่วยคลายร้อนและดับกระหาย อย่างไรก็ตาม มีข้อห้ามบางประการอยู่ด้วย
แตงโมและลูกพีชสามารถรับประทานร่วมกันได้ แต่ถ้าหากบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ แนะนำให้รับประทานผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งก่อน อีกทั้งแตงโมและลูกพีชยังเป็นผลไม้ที่มีรสหวานทั้งคู่ การรับประทานคู่กันอาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้นะ
หมายเหตุ: ได้มีข่าวทางออนไลน์ กล่าวว่า การกินแตงโมและลูกพีชด้วยกันอาจทำให้เกิดอันตรายได้นั้น เป็นข่าวลือที่ไม่ได้ร้ายเเรงอะไร เพราะอาการที่เกิดจากการรับประทานแตงโมและลูกพีชด้วยกันคือ อาการท้องเสีย ไม่ได้ถึงเเก่ชีวิต
การกินแตงโมหลังจากกินเนื้อแกะอาจ "ส่งผลเสียต่อพละกำลัง" เนื่องจากเนื้อแกะให้ความอบอุ่น ส่วนแตงโมเป็นผลไม้ฤทธิ์เย็น เเละยังส่งผลเสียต่อม้ามและกระเพาะอาหารอีกด้วย
สำหรับผู้ที่พลังหยางบกพร่อง อาจทำให้ม้ามและกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้บริโภคแตงโมหรืออาหารเย็นอื่นๆ ในปริมาณมากหลังจากรับประทานเนื้อแกะ
ทั้งแตงโมและกุ้งเป็นอาหารที่มีฤทธิ์เย็นและการบริโภคร่วมกันอาจทำให้ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงและปวดท้องได้ ไม่แนะนำให้ทานคู่กัน
มังคุดเป็นผลไม้เย็นการรับประทานคู่กันเป็นผลเสียได้ จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ
ทางที่ดีควรรับประทานมังคุด 3-4 ผลต่อวัน และอย่ารับประทานร่วมกับแตงโม นมถั่วเหลือง กะหล่ำปลี ผักกาดเขียว มะระ ฟัก และอาหารเย็นอื่นๆ
การบริโภคแตงโมมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อม้ามและกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการปวดท้องหรือท้องร่วงได้
ในฤดูร้อน ผู้คนจะรับประทานแตงโมเป็นจำนวนมากหรือดื่มซุปถั่วเขียวเพื่อคลายร้อน อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้บริโภคพร้อมกัน ทั้งแตงโมและถั่วเขียวนั้นมีฤทธิ์เย็นทั้งคู่ อาจทำให้มีผลเสียต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย หรือถ้าหากอยากรับประทานแนะนำให้รอประมาณครึ่งชั่วโมงต่อการทานอย่างใดอย่างหนึ่ง
การรับประทานของทอดร่วมกับแตงโม อาจทำให้อาเจียนและท้องเสียได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทานคู่กับแตงโมที่เเช่เย็น
ข้อเเนะนำ:
1. แตงโมเป็นผลไม้ที่นิยมบริโภคในฤดูร้อน และแตงโมที่มีขนาดใหญ่ ควรเเบ่งทานหลายๆครั้ง ไม่ควรทานหมดในครั้งเดียว
ในวันที่อากาศร้อน อาหารอาจเน่าเสียเร็วได้ ดังนั้นหากไม่ได้แช่เย็น ไม่ควรรับประทาน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการต่างๆ เช่น ท้องร่วงหรืออาเจียน
2. ผู้ที่ระบบย่อยอาหารไม่ดี เช่น ผู้สูงอายุ และเด็ก ไม่ควรรับประทานแตงโมมากเกินไป โดยเฉพาะแตงโมที่ไม่แช่เย็น เพราะอาจทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารระคายเคือง เบื่ออาหาร อาเจียน ปวดท้อง และรู้สึกไม่สบายได้
3. ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่ควรบริโภคแตงโมมากเกินไป เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและทำให้อาการแย่ลงได้
4. แตงโมมีน้ำและแร่ธาตุจำนวนมาก ในผู้ที่มีความผิดปกติทางไต การบริโภคที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดการกักเก็บของเหลวในร่างกายเพิ่มมากขึ้น และทำให้ไตทำงานหนัก ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับไต จึงไม่ควรบริโภคแตงโมจำนวนมาก