มะละกอ ผลไม้ที่สามารถทานได้ทั้งดิบและสุก ซึ่งก็มีรสชาติอร่อย และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทานแบบสด ๆ นำมาทำส้มตำ หรือเป็นส่วนประกอบของอาหารก็ตาม และนอกจากการนำมาใช้ประโยชน์แล้ว มะละกอก็ยังมีประโยชน์อีกมากมายที่จะช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงและต้านโรคร้ายได้อีกด้วย โดยบทความนี้ได้รวบรวมประโยชน์ของมะละกอมาฝากกันค่ะ

คุณค่าทางโภชนาการ

มะละกอเป็นแหล่งวิตามินซีชั้นเลิศ แค่ชิ้นขนาดกลาง ๆ ชิ้นเดียวก็ได้ปริมาณวิตามินซีที่ควรกินในแต่ละวันแล้ว แถมยังเป็นแหล่งของวิตามินและสารอาหารอื่น ๆ ด้วย อย่างเช่น

• โฟเลต

• วิตามินเอ

• แมกนีเซียม

• ทองแดง

• กรดแพนโทเทนิค

• กากใยอาหาร

นอกจากนี้มะละกอยังมีวิตามินบี อัลฟ่าและเบตา–แคโรทีน สารลูทีน และซีแซนทีน วิตามินอีแคลเซียม โพแทสเซียม วิตามินเค และไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่พบได้มากพอ ๆ กับมะเขือเทศเลย

ประโยชน์ของมะละกอต่อสุขภาพ

1. เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

มะละกอมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีน ซึ่งสารอาหารที่มีประโยชน์เหล่านี้จะช่วยเสริมภูมิคุมกันของร่างกาย ช่วยให้ไม่ป่วยได้ง่าย ๆ

2. ต้านมะเร็ง

จากการวิจัยพบว่า มะละกอมีสารไลโคปีน ที่จะช่วยในการต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก จึงควรทานมะละกอให้มากขึ้น นอกจากนี้ก็พบว่าเมล็ดมะละกอสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย จึงมีการนำเมล็ดมะละกอมาสกัดเพื่อเป็นยาบรรเทาอาการมะเร็งนั่นเอง

3. ช่วยป้องกันโรคหัวใจ

ส่วนประกอบที่เป็นกากใย โพแทสเซียม และวิตามินในมะละกอนั้น ล้วนช่วยป้องกันโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี เพราะการกินโพแทสเซียมเข้าไปเยอะ ๆ พร้อม ๆ กับลดการบริโภคโซเดียมลงนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจลงได้

4. ป้องกันโรคหอบหืด

คนที่กินสารอาหารบางชนิดในปริมาณสูงนั้น มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหอบหืดลดลง ซึ่งหนึ่งในสารอาหารที่ว่านั้นก็คือสารเบต้า–แคโรทีน ซึ่งพบมากในมะละกอ แอพริคอต บร็อคโคลี่ แคนตาลูป ฟักทอง และแครอท

5. บรรเทาอาการท้องผูก

มะละกอมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ และมีเส้นใยสูง จึงสามารถบรรเทาอาการท้องผูกได้ดี แถมยังลดความเสี่ยงการเป็นโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่มีปัญหาท้องผูกเป็นประจำ การทานมะละกอก็จะช่วยแก้อาการท้องผูกได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถปรับระบบการขับถ่ายให้เป็นปกติได้ดี

6. ช่วยลดการอักเสบ

เมื่อร่างกายมีภูมิต้านทานมากขึ้น อาการอักเสบต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายก็จะลดน้อยลง ที่สำคัญในมะละกอยังมีเอนไซม์ปาเปน เอนไซม์ที่มีฤทธิ์ลดอาการอักเสบที่เกิดจากการปวด บวม แดง ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อได้

7. ช่วยป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อม

งานวิจัยตีพิมพ์ในต่างประเทศกล่าวว่าการกินผลไม้ 3 ครั้งต่อวันอาจลดความเสี่ยงของอาการภาวะจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ อันเป็นสาเหตุของการเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ เนื่องจากคนไทยกินมะละกอ ทั้งดิบและสุกเป็นประจำ จึงมีความเสี่ยงลดลงในการเกิดโรคดังกล่าว

แค่ทานมะละกอเป็นประจำ ก็จะช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงขึ้นได้ และสามารถต้านโรคร้ายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโรคมะเร็ง และเพื่อให้ได้ประโยชน์ของมะละกอมากที่สุด ควรทานมะละกอสุกมากกว่ามะละกอดิบ เนื่องจากจะมีวิตามินและสารอาหารสูงกว่า แถมทานง่าย ย่อยง่ายและอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารอีกด้วย ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดี หันมาทานมะละกอบ่อย ๆ กันเถอะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่รับประทานมะละกอสุกติดต่อกันเป็นจำนวนมาก เป็นเวลานาน อาจทำให้สารมีสีพวก carotenoid ไปสะสมในร่างกายมากเกินไป ทำให้ผิวมีสีเหลือง