จริง ๆ แล้วนมมะพร้าวมีมานานแล้ว มาพร้อมกับกะทิเลย แต่เราแค่ไม่นิยมดื่มนมที่มาจากมะพร้าวเพราะเราชอบดื่มนมวัวมากกว่า หรืออีกนัยหนึ่งคือ เราชินกับการดื่มนมวัวหลังจากการดื่มนมแม่ แต่ตอนนี้คนบางส่วนมีอาการแพ้แลคโตสในนมวัวกันมากขึ้น นมทางเลือกที่สกัดจากพืชจึงเป็นที่นิยมมากขึ้น


นมมะพร้าวต่างจากกะทิอย่างไร?


กะทิมาจากการนำน้ำอุ่นมาผสมกับเนื้อมะพร้าวแล้วคั้นเอาน้ำออกจากมะพร้าว อย่างที่เรารู้ ๆ กันอยู่ ส่วนนมมะพร้าวคือการสกัดเอานมมะพร้าวออกจากเนื้อมะพร้าว ความต่างคือ นมมะพร้าวมีรสชาติและรสสัมผัสดีกว่า คงไม่มีใครมานั่งดื่มกะทิที่รสสัมผัสมัน ๆ หนา ๆ หนืด ๆ หรอกจริงไหมค่ะ


ประโยชน์ที่ได้จากนมมะพร้าวคือ ?


นมมะพร้าวนั้นมีส่วนผสมของไขมันที่ดีที่ร่างกายของเรานำไปใช้เผาผลาญเป็นพลังงานได้เลย ไม่สะสมในร่างกาย ดีต่อหัวใจ ช่วยบำรุงหัวใจ ด้วยการเพิ่มไขมันดีเข้าไปในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยในการขยายหลอดเลือดและป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ


นมมะพร้าวยังมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการชะลอวัย หรืออีกคำหนึ่งคือช่วยเพิ่มความยึดหยุ่นให้กับผิวหนังของเรานั่นเอง


หุ่นดี (ไม่อ้วน)


เพราะเป็นกรดไขมันอิ่มตัวสายกลางที่ดี (Medium Chain Fatty Acid) ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่สะสมในร่างกาย


สุขภาพดี เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน


ด้วย "ลอริก แอซิด" ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ไวรัสและเชื้อรา ในนมมะพร้าวมีกรดลอริก (Lauric Acid) อยู่สูงถึง (48-53%) เมื่อบริโภคเข้าไปในร่างกาย จะเปลี่ยนเป็นโมโนกลีเซอไรด์ ชื่อโมโนลอริน นอกจากจะเป็นสารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว ยังมีฤทธิ์เป็นสารปฏิชีวนะ ที่ทำลายเชื้อโรคได้ดี


สดชื่น


เพราะอุดมด้วยเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการ มีเกลือแร่, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, แคลเซียม, เหล็ก, และแมงกานีส


หากใครชอบกินน้ำมะพร้าวหรือเป็นแฟนของกะทิ ดื่มเฉย ๆ ก็ฟินได้ แต่สำหรับคนที่อยากเริ่มดื่มมะพร้าวเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น ขอแนะนำให้กินผสมกับอาหารอื่น เช่น ผสมกับน้ำผลไม้ปั่น ใช้ผสมกับซีเรียลหรือข้าวโอ๊ตสำหรับอาหารเช้า หรือใช้เป็นส่วนผสมของแพนเค้ก มัฟฟิน เครป เค้ก และไอศครีม หรือผสมลงไปกาแฟก็ฟินไม่แพ้กัน