ถ้าคุณต้องการจะเก็บรสชาติอร่อยๆของสตรอว์เบอร์รี่ช่วงต้นฤดูร้อนไว้ หลังจากที่ฤดูกาลสตรอว์เบอร์ได้สิ้นสุดลงไปแล้วล่ะก็ ลองทำการแช่แข็งสตรอว์เบอร์รี่เก็บไว้ก็ได้ โดยคุณสามารถแช่แข็งสตรอว์เบอร์รี่ได้ทั้งลูกหรือหั่นแล้วแช่ เพื่อช่วยให้เก็บรักษาไว้กินได้ยาวนานขึ้น
การแช่แข็งสตรอว์เบอร์รี่แบบทั้งลูกมีวิธีดังนี้
• ใส่ในภาชนะพลาสติกหรือถุงพลาสติก แต่อาจจะติดกันเป็นก้อน ควรแช่แข็งทั้งลูกบนถาดแบน จะป้องกันไม่ให้ติดกันได้
• รองก้นถาดด้วยกระดาษไขหรือผ้าขนหนูกระดาษ วางสตรอเบอร์รี่ตั้งในถาด อย่าให้โดนกัน
• เอาสตรอว์เบอร์รี่ใส่ในช่องแช่แข็ง รอจนแข็ง จากนั้นเอาใส่ในถุงพลาสติกบรรจุอาหารแบบซิปล็อคเพื่อเก็บรักษา
การทำให้เป็นน้ำแข็งก้อน
• ล้างและตัดขั้วสตรอว์เบอร์รี่แต่ละลูก ให้พอดีกับหลุมของถาด หรือให้พอดีสำหรับนำมาใส่เครื่องดื่มในวันที่อากาศร้อน และการใช้วิธีนี้จะทำให้สตรอว์เบอร์รี่สามารถแช่แข็งไว้ได้นานถึง 2 เดือน
เคล็ดลับสำหรับการแช่แข็งสตรอว์เบอร์รี่
• สตรอว์เบอร์รี่ช้ำได้ง่าย ควรล้างเบาๆโดยการใส่ในกระชอนและค่อยๆจุ่มลงในน้ำอย่างนุ่มนวล หรือใช้ก๊อกน้ำแบบไหลอ่อน หรือก๊อกน้ำแบบหัวสเปรย์
• การใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ใช้อัตราส่วนน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำประมาณ 1 ลิตร ให้ใส่น้ำส้มสายชูและน้ำในอ่างล้างจานที่สะอาดหรือชามสะอาดๆ จุ่มกระชอนลงในส่วนผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำ ค่อยๆแกว่งไปมาเพื่อให้ทุกส่วนของสตรอเบอร์รี่แต่ละลูกสัมผัสกับส่วนผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำ แล้วใช้ผ้าขนหนูซับสตรอว์เบอร์รี่ให้แห้งก่อนแช่แข็งหรือแช่เย็นเพื่อป้องกันไม่ให้เละ
สตรอว์เบอร์รี่แช่แข็ง นอกจากจะเก็บไว้ได้นานแล้ว ยังสะดวกในการหยิบมากิน มาใช้ทำอาหารอื่นๆได้ง่ายด้วย เช่น สูตรสมูทตี้ที่มีส่วนผสมของสตรอว์เบอร์รี่แช่แข็งเป็นหลัก ที่ไม่ว่าจะนำไปผสมปั่นรวมกับผลไม้ชนิดใด ความเปรี้ยวหวานของเนื้อสตรอว์เบอร์รี่ ก็สามารถทำให้เครื่องดื่มแก้วนั้นอร่อยดับกระหาย แถมยังช่วยให้ร่างกายได้รีเฟรชรับความสดชื่นได้ทันที
การแช่แข็งไม่ใช่การฆ่าเชื้อโรคให้สตรอเบอร์รี่แต่จะเป็นการถนอมอาหาร ดังนั้นควรล้างให้สะอาดและซับจนแห้งก่อน และอย่าคาดหวังปาฏิหาริย์จากสตรอว์เบอร์รี่แช่แข็ง เพราะเมื่อละลายน้ำแข็งแล้วจะนิ่มกว่าเดิม บางครั้งค่อนข้างจะเละ และมีสีเข้มขึ้น รสชาติ เนื้อสัมผัสจะแตกต่างจากสตรอว์เบอร์รี่สดอีกด้วย