หลาย ๆ คนคงเคยดื่มนมวัว นมวัวมีสารอาหารมากมาย “นม” เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่าตั้งแต่เกิดที่คลอดออกจากท้องแม่ ก็ต้องดื่มนมเป็นอาหาร วันนี้จะพาไปย้อนรอยดูความเชื่อเรื่องของนมตั้งแต่โบราณ และเรื่องของ “นม” ที่มากกว่าแค่การดื่มนม


นมถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย นอกจากมีไว้ดื่มแล้ว เรายังเคยได้ยินวิธีบำรุงผิวพรรณจากนม ที่ผู้หญิงพูดกันอยู่บ่อย ๆ จนคุ้นชินหูว่า “อาบน้ำแร่ แช่น้ำนม” แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนว่าการ “แช่น้ำนม” มีประโยชน์อย่างไร แล้วทำไมต้องแช่น้ำนมด้วยล่ะ


1.วลีคุ้นหูที่ว่า “แช่น้ำนม”


มีมาตั้งแต่สมัยคลีโอพัตรา นับถอยหลังไปเมื่อ 2000 ปีที่แล้ว ถือว่าการอาบน้ำนม เป็นวิธีบำรุงผิวของผู้หญิงสมัยโบราณที่ดีที่สุด เพราะว่าในน้ำนม มีกรดแลคติก อุดมไปด้วยวิตามิน โปรตีน และแร่ธาตุ ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสีย กลับมาเนียนนุ่ม ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ใช้การดูแลผิวด้วยวิธีนี้ มักจะเป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะ หรืออยู่ในท้องถิ่นที่หาวัตถุดิบได้ง่าย เพราะต้องใช้น้ำนมสดในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อให้เราสามารถลงไปนอนแช่ได้อีกด้วย แต่ในปัจจุบันอาจไม่ตอบโจทย์คนในสมัยนี้มากเท่าไหร่ เพราะขั้นตอนมากมาย บวกกับการคิดค้นนวัตกรรมที่สามารถนำสารสกัดจากธรรมชาติ มาใช้เป็นส่วนผสมในครีมบำรุงผิว หรือครีมอาบน้ำได้ ทำให้การแช่น้ำนมอาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการดูแลผิวอีกต่อไป


แต่ “นม” ก็ยังจำเป็นต่อบริโภค เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ครบถ้วนด้วยสารอาหารหลัก 5 หมู่ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ ก็สามารถดื่มได้ทุกวัย แต่ไม่ใช่ทุกเวลา หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมในโฆษณา ต้องชวนให้ดื่มนมตอนเช้าด้วยนะ จะดื่มตอนไหนก็ได้ประโยชน์เหมือนกันไม่ใช่หรอ ? แต่หากเลือกดื่มนมตามเวลาที่เหมาะสม ก็จะยิ่งช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ


2.เวลาไหนที่ควรดื่มนม



ช่วงเวลา 05.00 – 07.00 น.


ช่วงเวลานี้ควรดื่มนมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์ เพราะเป็นช่วงที่ลำไส้ใหญ่เริ่มทำงาน เพราะจุลินทรีย์ในนมเปรี้ยวจะไปช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ระบบขับถ่ายมีการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ



ช่วงเวลา 07.00 – 09.00 น.


ช่วงเวลาอาหารมื้อเช้า การดื่มนมพาสเจอร์ไรส์ หรือมอลต์ในช่วงเวลานี้จะช่วยทำให้กระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารให้ดีขึ้น



ช่วงเวลา 09.00 – 12.00 น.


การดื่มนมผสมโยเกิร์ต หรือกินโยเกิร์ตไขมันต่ำ จะสามารถไปช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพ มีความจำที่ดี



ช่วงเวลา 12.00-15.00 น.


เป็นช่วงเวลาการทำงานของระบบย่อยอาหาร ของกระเพาะกับลำไส้เล็ก หากดื่มนมเปรี้ยวในช่วงเวลานี้จะไปช่วยให้ลำไส้เล็กย่อยและดูดซึมอาหารได้ดียิ่งขึ้น แนะนำดื่มหลังอาหาร



ช่วงเวลา 15.00 – 17.00 น.


ควรเลือกดื่มนมเปรี้ยวอีกครั้ง เพราะเป็นช่วงเวลาการทำงานของกระเพาะปัสสาวะและเพื่อช่วยทำให้ระบบการทำงานของกระเพาะปัสสาวะขับถ่ายของเสียได้ดียิ่งขึ้น



ช่วงเวลา 17.00 – 21.00 น.


เป็นช่วงที่ร่างกายต้องการพักผ่อน การดื่มนมที่มีวิตามิน C และ E แทนอาหารเย็น จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและหัวใจได้ดี



ช่วงเวลา 21.00 – 23.00 น.


การดื่มนมอุ่น ๆ ในเวลานี้จึงเหมาะสมที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีที่สุดอีกด้วย


3.รู้หรือไม่ ? สุนัข-แมว ห้ามกินนม


สุนัข และแมวของคุณในวัยเด็ก อาจไม่รู้ว่าควรจะให้อะไรเป็นอาหาร จึงเลือกให้นมน้อง ๆ เหล่านั้นแทน จริง ๆ แล้วถือเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องเสมอไป จากการสัมภาษณ์ คณบดีคณะเทคนิคการสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า


จริง ๆ แล้ว ทั้งสุนัขและแมว เป็นสัตว์ที่ไม่มี เอมไซม์ จึงไม่สามารถย่อยนมวัวได้นั่นเอง ในนมวัวจะมี Lactose ค่อนข้างสูง เมื่อได้รับนมพวกนี้ไป มักจะเกิดอาหารท้องเสีย นำไปสู่การเกิดท้องเสียเรื้อรังติดต่อกันหลายวัน ทำให้เสี่ยงกับการเกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้ง่ายขึ้น