คุกกี้ คือขนมอบชิ้นเล็กๆ รูปร่างแบนๆ ทำจากแป้งสาลี คำว่าคุกกี้มีที่มาจากคำในภาษาดัตช์ koekje ซึ่งหมายถึง "เค้กชิ้นเล็กๆ" คำว่า คุกกี้ ใช้กันในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในขณะที่สหราชอาณาจักรจะเรียกขนมแบบเดียวกันนี้ว่า "บิสกิต" (biscuit) คุกกี้สามารถตกแต่งด้วยผลไม้ หรือธัญพืช เนื้อขนมนุ่มนวลและกรอบ สามารถเก็บไว้ได้นานกว่าขนมอื่นๆเหมาะสำหรับเป็นของว่าง รับประทานกับเครื่องดื่มชนิดต่างๆได้ การทำคุกกี้ มีส่วนผสมน้อยและวิธีทำที่ไม่ยุ่งยาก นอกจากจะเอาไว้รับประทานแล้วยังทำเพื่อจำหน่ายได้ด้วย


ต้องบอกเลยว่า คุกกี้เป็นขนมโปรดของใครหลายๆคน ที่จะต้องมีขนมคุกกี้ติดไว้ที่บ้านเป็นของทานเล่นไว้ดื่มกับชาหรือจิบกาแฟ และสิ่งที่หลายๆคนยังไม่รู้นั่นก็คือ ขนมคุกกี้มีหลายประเภท เเต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องของวิธีการทำ รวมถึงเนื้อสัมผัสและรสชาติด้วย โดยเราจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 ประเภทด้วยกัน


• คุกกี้หยอด เป็นคุกกี้ที่ส่วนผสมจะมีลักษณะเหลวพอที่จะใช้ช้อนตักหยอดเป็นรูปร่างต่างๆ หรือใส่กรวยที่มีหัวบีบ ตกแต่งหน้าด้วยเชอรี่หรือลูกเกด เช่น คุกกี้นมสด คุกกี้เนย คุกกี้กุ้งแห้ง คุกกี้เม็ดมะม่วง


• คุกกี้ม้วน เป็นคุกกี้ที่มีส่วนผสมค่อนข้างแห้งและอยู่ตัว สามารถนำมารีดเป็นแผ่นวางลวดลายต่างๆ หรือม้วนเป็นวงกลม คุกกี้ชนิดนี้ต้องนำเข้าแช่ในตู้เย็นจนแข็ง จึงนำออกมาตัดเป็นแว่นๆ แล้วนำเข้าอบ เช่น คุกกี้แฟนซี คุกกี้ผลไม้ ฯลฯ


• คุกกี้กด เป็นคุกกี้ที่มีความเข้มข้นมาก หรือลักษณะของแป้งค่อนข้างอยู่ตัว นำมารีดเป็นแผ่นกดด้วยพิมพ์เป็นลายต่างๆ เช่น คุกกี้สิงคโปร์ คุกกี้หน้าทอฟฟี่ ฯลฯ


• คุกกี้ปั้น ส่วนผสมค่อนข้างแห้งและมีประมาณไขมันสูง เหมาะสำหรับปั้นเป็นรูปร่างต่างๆได้


• คุกกี้แช่เย็น ส่วนใหญ่จะคลึงแล้วม้วนเป็นแท่งและแช่เย็นให้อยู่ตัว เวลาจะใช้จึงตัดเป็นชิ้นบางๆแล้วอบ การแช่เย็นเพื่อให้หลังตัดเป็นชิ้นแล้วยังคงรูปร่างเดิม คุกกี้ชนิดนี้สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน โดยเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน โดยเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง


ข้อดีของคุกกี้ คือ เป็นขนมที่เก็บไว้กินได้เป็นเวลานานทำให้นักท่องเที่ยวหรือคนที่รักการเดินทางก็มักจะพกคุกกี้ติดตัวไปด้วย เพราะพกง่าย กินง่าย สะดวกกว่าขนมชนิดอื่นด้วยค่ะ