ถ้าเอ่ยถึงมะเขือเทศเชอรี สาว ๆ หลายคนอาจจะรู้จักกับผลไม้ชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมะเขือเทศเชอรีหรือที่หลายคนเรียกว่ามะเขือเทศราชินี แม้จะเป็นผลไม้ที่มีขนาดเล็ก แต่กลับมีคุณค่าทางอาหารอยู่มากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ กลูโคส โปรตีน โซเดียม วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี แคลเซียม และธาตุเหล็ก เป็นต้น เห็นถึงสารอาหารหลากชนิดแล้ว มาดูกันค่ะว่าผลไม้ชนิดนี้จะให้คุณประโยชน์แก่ร่างกายในด้านใดบ้าง

คุณค่าทางโภชนาการในมะเขือเทศเชอรี 100 กรัม (ประมาณ 5-7 ลูก)

• พลังงานประมาณ 18 กิโลแคลอรี

• คาร์โบไฮเดรต 4.2 กรัม

• ไฟเบอร์ 0.8 กรัม

• กลูโคส 2.5 กรัม

• โปรตีน 0.8 กรัม

• โซเดียม 10.8 มิลลิกรัม

• วิตามินเอ 86.3 ไมโครกรัม

• วิตามินซี 34.1 มิลลิกรัม

• แคลเซียม 12.5 มิลลิกรัม

• ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของมะเขือเทศเชอรี

1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ผลไม้ฉ่ำน้ำ รสเปรี้ยวอมหวานชนิดนี้มีวิตามินซีอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ ซึ่งวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวเพื่อป้องกันหรือกำจัดเชื้อโรคแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย จึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น ไม่ป่วยไม่เจ็บง่าย ๆ และโดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงต้องการวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัม ส่วนผู้ชายต้องการวิตามินซีวันละ 90 มิลลิกรัม ซึ่งมะเขือเทศเชอรี 1 ถ้วย (ประมาณ 240 กรัม หรือ 14-15 ลูก) จะให้วิตามินซีราว ๆ 80 มิลลิกรัม ก็ถือว่าเพียงพอกับความต้องการของร่างกายใน 1 วัน

2. ช่วยเรื่องความงาม

เพราะมะเขือเทศเชอรี่นั้นมีแร่ธาตุและสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบภายในร่างกายของเราที่จะได้รับสารอาหารดังกล่าวไปเต็ม ๆ นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์จากภายในก็จะส่งผลอย่างต่อเนื่องออกมาสู่รูปลักษณ์ภายนอก ทั้งผิวพรรณที่ดี แข็งแรงทนทานจากแสงแดด มีความยืดหยุ่นและอ่อนกว่าวัย ใครที่เบื่อรับประทานมะเขือเทศเชอรี่ก็ยังคงสามารถได้รับประโยชน์ด้านการเสริมความงามได้เช่นเดียวกัน เช่น การนำมะเขือเทศเชอรี่มาหมักกับเส้นผม ช่วยให้เส้นผมนุ่มเงางาม รวมถึงนำมาเป็นวัตถุดิบหลักในการพอกผิวหน้าและผิวกาย รวมไปถึงเป็นส่วนผสมของสครับที่ปลอดภัยสำหรับผิวหนังโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีได้นั่นเอง

3. แก้ปวดและต้านการอักเสบ

ใครที่เป็นโรคข้ออักเสบ แนะนำให้กินมะเขือเทศเชอรีค่ะ เพราะในมะเขือเทศเชอรีมีสารไบโอฟลาโวนอยด์ (bioflavonoid) และแคโรทีนอยด์ช่วยบรรเทาอาการปวด อาการอักเสบ และชะลอโรคให้ช้าลง ส่วนใครที่ยังไม่ได้เป็นโรคข้ออักเสบมะเขือเทศเชอรีก็ช่วยป้องกันโรคไขข้ออักเสบได้ด้วยนะ

4. รักษาสิว

ทราบหรือไม่ว่ามะเขือเทศเชอรีมีส่วนช่วยรักษาสิวได้ดี เนื่องจากเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นสารที่มีสรรพคุณในการรักษาสิว เพียงแค่เฉือนมะเขือเทศเชอรีเป็นชิ้นบาง ๆ แล้ววางไว้บริเวณผิวที่มีสิวขึ้นประมาณ 30 นาที ล้างออกให้สะอาด สิวจะลดลง ผิวหน้ามีน้ำมีนวลและนุ่มชุ่มชื้น

5. บำรุงสายตา

สารเบต้าแคโรทีนสูงที่อุดมอยู่ในมะเขือเทศเชอรีมีส่วนช่วยบำรุงสายตา ช่วยทำให้มองเห็นได้ดีในที่มืด และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจกอีกด้วย

เห็นถึงประโยชน์มากมายที่ได้รับจากการทานมะเขือเทศเชอรีกันไปแล้ว หวังว่าสาวๆ จะหันมาให้ความสำคัญกับการทานผลไม้ชนิดนี้กันมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ผลไม้ชนิดนี้ก็จัดเป็นผลไม้ต้องห้ามสำหรับผู้ที่มีภาวะกรดไหลย้อน เป็นโรคไต และมีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง เพราะอาจจะทำให้อาการกำเริบได้