เกรปฟรุ๊ต (Grapefruit) สามารถสะกดได้หลายแบบ เช่น เกรฟฟรุต เกรพฟรุต หรือเกรปฟรุ๊ต เป็นผลไม้กึ่งเขตร้อนจัดอยู่ในสกุลส้ม (Citrus) แต่จะมีขนาดใหญ่และเปลือกหนา มีสรรพคุณใกล้เคียงกับตระกูลส้ม คือ มีวิตามินซีสูง เป็นผลไม้ที่มีรสหวานอมเปรี้ยวถึงเปรี้ยวจัด มีรสฝาดปนนิดๆและมีสารป้องกันอนุมูลอิสระที่สูง ทำให้มีประโยชน์ด้านการลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งในช่องท้องและช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้สูงขึ้นอีกด้วย

เกรปฟรุต เป็นส้มชนิดหนึ่งมีถิ่นกำเนิดในคาบสมุทรมลายูและหมู่เกาะอินเดียตะวันออก ประเทศที่ปลูกมากและปลูกเพื่อการค้า ได้แก่ จีน เวียดนาม มาเลเซียและไต้หวัน มีชื่อสามัญว่า Grapefruit ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus paradise และเป็นลูกผสมระหว่างส้มโอและส้ม ลำต้นคล้ายกับต้นส้มทั่วไป ใบบางมีกลิ่นหอม ดอกออกเป็นช่อสีขาวผลมีขนาดเล็กกว่าผลส้มโอแต่ขนาดใหญ่กว่าส้ม เปลือกหนาสีเหลือง

ชาวตะวันตกนิยมกินเกรปฟรุตในอาหารมื้อเช้าเกรปฟรุตนำมาผ่าตามขวางกลางลูก โรยน้ำตาลหรือน้ำผึ้งแล้วใช้ช้อนตักกิน หรือจะนำไปกินเป็นฟรุตสลัด ทำน้ำผลไม้ เยลลี่ และมาร์มาเลด

เกรปฟรุต มีวิตามินซี แอนติออกซิแดนท์สูง และฟลาโวนอยด์สูง รวมเรียกว่า เฮสเพอเรติน ที่จะทำงานร่วมกันกับวิตามินซีในผลไม้จำพวกส้ม ช่วยดูแลสุขภาพ ช่วยป้องกันและลดมะเร็งในท้อง ปาก หลอดอาหารและทรวงอก ลดความดันโลหิตสูง เพิ่มโคเลสเตอรอลดีและลดโคเลสเตอรอลด้วย นอกจากอุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม วิตามินซี กรดซิตริก และไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีประโยชน์กับตับ ส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมทั้งชะล้างสารพิษและทำความสะอาดร่างกายแล้ว กลิ่นของเกรปฟรุตยังถูกนำมาผสมกับผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงาม ที่ให้กลิ่นสดชื่น ทำให้ผู้ใช้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างดีอีกด้วย

ข้อควรระวังในการทานเกรปฟรุ๊ต (Grapefruits) สถาบันวิจัยสุขภาพลอว์สันจากมหาวิทยาลัยเวสต์เทิร์นออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ระบุว่ายาที่มีผลข้างเคียงต่อเกรปฟรุ๊ต มีมากกว่า 43 ชนิด หากเราทาน หรือดื่มน้ำเกรปฟรุ๊ตร่วมกับยาบางชนิด จะส่งผลให้เกิดอาการ Overdose หรือปริมาณยาที่มากเกินไปได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือหากเรารับประทานยา 1 เม็ด จะให้ผลเหมือนเราทานยา 5 ถึง 10 เม็ด ถือว่าอันตรายมากๆ

ตัวอย่างยาที่ไม่ควรทานร่วมกับเกรปฟรุ๊ต (Grapefruits)

• ยาต้านมะเร็ง

• ยาลดระดับคอเลสเตอรอล

• ยาที่ใช้เพื่อกดระบบภูมิต้านทาน

• ยาลดไขมัน simvastatin (Zocor), atorvastatin (Lipitor)

• ยาความดัน nefidipine (Procardia, Adalat CC)

• ยาสำหรับผู้ที่มีหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Amiodarone)

• ยาแก้วิตกกังวล (Buspirone)

• ยาแก้แพ้ Fexofenadine (Telfast)

การบริโภคสิ่งต่างๆก็ต้องดูความพอดีและความเหมาะสม โดยงดการบริโภคน้ำเกรปฟรุ๊ตร่วมกับยา หรือควรดื่มหลังบริโภคอาหารแล้ว 1-2 ชั่วโมง ซึ่งถ้าป้องกันได้ดังนี้แล้วการบริโภคเกรปฟรุ๊ตเพื่อสุขภาพ และการลดน้ำหนักก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลแต่อย่างใด แต่ควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่หรือทานอาหารให้หลากหลาย เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายและมีสุขภาพที่ดี