แก้วมังกร มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Dragon Fruit ชาวยุโรปเรียกว่า Pitaya มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hylocereus undatus (Haw) Britt. Rose. แก้วมังกรที่นิยมในประเทศไทยมี 2 พันธุ์ คือ เนื้อสีขาวรสหวานอมเปรี้ยวและสีแดงมีรสชาติหวานจัด แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณทางยามากมายเลยทีเดียว


แก้วมังกรอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด อย่างเช่น วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น ถ้ารับประทานแก้วมังกร 1 ลูก น้ำหนัก 100 กรัม ร่างกายจะได้คาร์โบไฮเดรต 12.4 กรัม โปรตีน 1.4 กรัม ฟอสฟอรัส 32 มิลลิกรัม แคลเซียม 9 มิลลิกรัม วิตามินซี 7 มิลลิกรัม พลังงาน 66 กิโลแคลอรี และใยอาหาร 2.6 กรัม และสารอื่น ๆ อีกด้วย แก้วมังกรเลยถูกจัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพชนิดหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจ เพราะเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพของคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงามอีกด้วย


แก้วมังกรลดความอ้วนได้จริงหรือ? ได้แน่นอน เพราะเป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัว แก้วมังกรมีแคลอรีต่ำเป็นตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี และเป็นผลไม้ที่มีเนื้อเยอะ รับประทานแล้วอิ่มท้องนาน เรียกได้ว่าสามารถรับประทานแทนอาหารหนึ่งมื้อได้เลย แม้จะรับประทานเยอะแค่ไหนก็ไม่ทำให้อ้วน แถมช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส ดูมีน้ำมีนวลอีกด้วย แต่ทั้งนี้ควรรับประทานอย่างพอประมาณหรือวันละไม่เกิน 1 ลูก ถ้าจะให้ดีในทุก ๆ วันไม่ควรรับประทานผลไม้เดิม ๆ ซ้ำ ๆ ติดต่อกันหลายวัน เพื่อให้ได้สารอาหารอย่างหลากหลาย และได้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเต็มที่ โดยการรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมตามหลักโภชนาการนั้น ควรรับประทานผลไม้ให้ได้วันละ 3-5 ส่วนนั่นเอง


ประโยชน์ของแก้วมังกร


1. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส ชุ่มชื่น


2. ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย แก้ท้องผูก เพราะเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงถึง 2.6 กรัม และช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้


3. แก้ร้อนใน ดับกระหาย ปรับอุณหภูมิของร่างกายได้อย่างดี


4. มีไขมันไม่อิ่มตัวสามารถต่อต้านปฏิกิริยาออกซิเดชันและมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคมะเร็ง


5. สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานได้


6. ช่วยลดไขมันและระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด


7. ช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด


8. มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน บี 1 บี 2 บี 3 และวิตามินซีสูง ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชะลอความชรา และเปลือกแก้วมังกรยังเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้อีกด้วย


9. มีฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และแคลเซียมที่ช่วยในการเสริมสร้าง ซ่อมแซมกระดูกและฟันให้แข็งแรง


10. สีของเปลือกแก้วมังกร ใช้แทนสีผสมอาหารได้


11. เปลือกแก้วมังกร มีสารแอนโทไซยานินช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด ลดความเสี่ยงโรคความดันโลหิต


12. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกายให้แข็งแรง


13. มีส่วนช่วยบรรเทาอาการของโรคโลหิตจาง


14. กระตุ้นต่อมน้ำนมให้คุณแม่หลังคลอดได้อย่างดีเพราะมีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง


15. ช่วยล้างพิษ ดูดซับสารเคมี และช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบกำจัดของเสียในร่างกายให้ดีขึ้น


เชื่อว่าทุกท่านคงจะตื่นตัวและหันมากินแก้วมังกรกันเยอะขึ้นนะคะ แต่อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเราล้วนแล้วต้องการสารอาหารที่หลากหลายและครบ 5 หมู่ ดังนั้นเราควรบรรจุแก้วมังกรให้อยู่ในมื้ออาหารหลักที่ครบถ้วน ไม่ควรอดอาหารประเภทอื่นๆ แล้วกินแค่แก้วมังกรอย่างเดียวเพื่อลดความอ้วนนะคะ