เสาวรส มีถิ่นกำเนิดในบราซิล เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า "ผลไม้บราซิล" เนื่องจากน้ำผลไม้อุดมไปด้วยสารอาหารและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ จึงถูกเรียกว่า "เสาวรส" เนื่องจากมีกลิ่นหอมของกล้วย สับปะรด มะนาว ทับทิมและผลไม้อื่นๆอีกมากมาย และยังเป็นที่รู้จักกันในนาม "ราชาแห่งน้ำผลไม้" .

เสาวรสเป็นไม้ล้มลุกในสกุล Passiflora มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 ซม. จะมีสีม่วงเมื่อโตเต็มที่ เมล็ดมีจำนวนมากและเป็นวงรี เกิดในหุบเขาและป่าทึบที่ระดับความสูง 180-1,900 เมตร มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน อายุประมาณ 20 ปีและถ้าเป็นพืชเศรษฐกิจโดยทั่วไปมีอายุ 8-10 ปี

น้ำเสาวรสมีสี กลิ่น รส และคุณค่าทางโภชนาการที่ดีเยี่ยม อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น 17 ชนิดและส่วนผสมที่เป็นประโยชน์มากกว่า 160 ชนิด เช่น วิตามินและธาตุต่างๆ เหมาะสำหรับการผลิตน้ำผลไม้ เยลลี่ แยมและผลิตภัณฑ์อื่นๆ และมีผลอย่างอื่นที่มหัศจรรย์ เช่น ขจัดความเมื่อยล้า ลดไขมันและความดันโลหิต

การกินเสาวรสทำให้กระเพาะอาหารดีขึ้น : เสาวรสมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและสามารถช่วยล้างกระเพาะได้ ลองทำน้ำผลไม้ที่มีเนื้อเสาวรส สตรอเบอร์รี่และน้ำ แล้วเติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสม ซุปเปอร์ไฟเบอร์ในเสาวรสสามารถส่งเสริมการขับถ่ายและขจัดสารระคายเคืองที่ติดอยู่ในลำไส้ได้ แล้วก็ไม่สร้างความเสียหายต่อผนังลำไส้ และซุปเปอร์ไฟเบอร์ยังมีฤทธิ์ต้านเนื้องอกอีกด้วย!

เสาวรสทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น : เสาวรสยังอุดมไปด้วยฟีนอลอะโรมาติก มีผลเรื่องการผ่อนคลายที่ดี สามารถปรับปรุงอารมณ์และแก้ไขการนอนหลับได้ วิธีทำ คือ ขูดเนื้อเสาวรส ผสมกับโยเกิร์ต เติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาล คนให้เข้ากันแล้วกินได้เลย

ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงควรกินเสาวรส และความดันโลหิตก็ลดลงจริงๆ : เสาวรสอุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหาร มีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิตเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง วิธีทำ คือ ล้างและหั่นเสาวรสเป็นชิ้นๆ ตักเนื้อด้วยช้อนแล้วใส่เครื่องปั่น จากนั้นเติมน้ำผึ้ง น้ำเย็น น้ำมะนาว ปั่นให้เข้ากัน กรองแล้วเทลงในถ้วย ใส่น้ำแข็งบดแล้วดื่มได้เลย

แม้ว่าเสาวรสจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องพึงระวังเพิ่มเติมด้วย ลองมาดูกันเลย

1.ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ไม่ควรรับประทาน บางคนแพ้เสาวรสและมีอาการแพ้หลังจากกินเสาวรสซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นผู้ที่แพ้เสาวรสควรระวังให้มากขึ้น และอย่ารับประทานเมื่อพบส่วนผสมของเสาวรส ลดการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้และป้องกันอาการภูมิแพ้จากเสาวรส

2. คนที่ลำไส้ไม่ดีและกระเพาะอาหารไม่ดีไม่ควรรับประทาน เสาวรสอุดมไปด้วยวิตามินซี แต่ธรรมชาติของมันเป็นผลไม้เย็น ถ้ากินมากเกินไปจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวได้ง่าย นอกจากนี้ผู้ที่มีปัญหาทางกระเพาะอาหารควรรับประทานให้น้อยที่สุด เพราะหลังรับประทานอาหารอาจจะมีกรดในกระเพาะมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดกรดไหลย้อนและอาจส่งผลต่อเยื่อบุกระเพาะอาหารได้เช่นกัน