"เสาวรส" ผลไม้ที่มีความโดดเด่นกับรสเปรี้ยว ส่วนใหญ่จะคุ้นชินกับการนำมาดัดแปลงเป็นเครื่องดื่ม นอกจากคุณสมบัติในรูปของผลไม้แล้ว "เสาวรส" ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าสนใจในหลายด้าน
ลักษณะของเสาวรส
เสาวรสเรียกอีกชื่อว่า กะทกรกฝรั่ง, กะทกรกสีดา หรือกะทกรกยักษ์ มีลักษณะเป็นเถาไม้เลื้อย ผลเสาวรสเป็นทรงกลม ผลอ่อนจะเป็นสีเขียว และเมื่อสุกจะมีหลายสีแล้วแต่พันธุ์ ซึ่งจะมีสีเหลือง สีส้ม สีม่วง ด้านในของเปลือกจะเป็นสีขาวที่เรียกว่ารก ในประเทศไทยปลูกอยู่ 3 สายพันธุ์ ซึ่งในแต่ละพันธุ์ก็จะมีสรรพคุณและประโยชน์ของเสาวรสที่แตกต่างกันไป
1. พันธุ์ผลสีม่วง (Passiflora edulis) เมื่อผลสุกจะมีเปลือกสีม่วง น้ำจะมีรสชาติที่ดีกว่าพันธุ์อื่น ๆ มีกรดต่ำ และเหมาะจะทานแบบสด ๆ ได้เพราะจะมีรสชาติหวาน
2. พันธุ์ผลสีเหลือง (Passiflora edulis Var. flavicarpa) พันธุ์นี้น้ำจะมีความเป็นกรดสูง เมื่อสุกเปลือกจะมีสีเหลือง เหมาะที่จะส่งเข้าโรงงานเพื่อทำการแปรรูปมากกว่าการรับประทานแบบสด ๆ
3. พันธุ์ลูกผสม พันธุ์นี้จะเป็นการผสมระหว่างพันธุ์ผลสีม่วงและพันธุ์สีเหลือง โดยมีลักษณะเด่นของทั้ง 2 สายพันธุ์รวมกัน จึงเหมาะจะปลูกเพื่อการทำน้ำเสาวรส
คุณค่าทางโภชนาการของเสาวรส
ผลเสาวรส 100 กรัม จะให้พลังงาน 97 กิโลกรัม และให้วิตามินกับสารอาหารที่มีประโยชน์ ดังนี้
• คาร์โบไฮเดรต 23.38 กรัม
• โปรตีน 2.2 กรัม
• วิตามินเอ 64 ไมโครกรัม
• วิตามินบี 9 14 ไมโครกรัม
• วิตามินซี 30 มิลลิกรัม
• ธาตุแมกนีเซียม 29 มิลลิกรัม
• ธาตุโพแทสเซียม 29 มิลลิกรัม
ประโยชน์ของเสาวรส
1. บำรุงสายตา
เสาวรสอุดมไปด้วยวิตามินเอ และมีสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ซึ่งถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันเซลล์ประสาทตาถูกทำลาย และช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
2. กระตุ้นระบบขับถ่าย
เสาวรสมีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบขับถ่าย เนื่องจากอุดมไปด้วยไฟเบอร์ หรือกากใยอาหาร ทั้งยังมีส่วนช่วยในการขจัดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีที่อยู่ในร่างกาย รวมทั้งสามารถขจัดสารพิษ จึงเหมาะสำหรับใช้ในการดีท็อกซ์ของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ด้วย
3. เสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง
ใครที่เจ็บป่วยบ่อย ๆ แนะนำให้รับประทานผลไม้ชนิดนี้เป็นประจำ เพราะในเสาวรส 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 30 มิลลิกรัม คิดเป็น 36% ของปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน เมื่อร่างกายได้รับปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอมากขึ้น ก็จะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันหวัด และป้องกันการกำเริบของโรคภูมิแพ้ได้
4. บำรุงหัวใจ
เสาวรส 100 กรัม มีโพแทสเซียมสูงถึง 348 มิลลิกรัม ซึ่งแร่ธาตุชนิดนี้เป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อเซลล์ และของเหลวในร่างกาย นอกจากนี้ เมื่อร่างกายได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่พอเหมาะ ก็จะช่วยให้การทำงานของหัวใจ และความดันโลหิตเป็นปกติ
5. ป้องกันกระดูกพรุน
เสาวรสมีสรรพคุณในการป้องกันโรคกระดูกพรุน เนื่องจากมีแคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง วิธีการรับประทาน คือ ให้คั้นเอาน้ำจากผลเสาวรสแก่จัด ใส่เกลือ หรือน้ำตาลลงไปตามชอบ สามารถดื่มเรื่อย ๆ ได้ทั้งวัน นอกจากนี้ น้ำเสาวรสยังช่วยป้องกันโรคเหงือกอักเสบ และช่วยให้ฟันแข็งแรงอีกด้วย
6. ช่วยให้นอนหลับง่าย
การดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น โดยการจะดื่มให้ได้ประโยชน์นั้น ควรดื่มน้ำคั้นสด เติมน้ำตาล หรือเกลือลงไปเล็กน้อย เพียงแค่นี้ก็ทำให้นอนหลับสบายขึ้นแล้ว
ในการใช้เสาวรส โดยปกติแล้ว มักจะนำเสาวรสสุกมาทำเป็นน้ำผลไม้หรือรับประทานสด ขณะที่ส่วนอื่นจากเสาวรสจะใช้ประโยชน์ในเชิงสมุนไพร เช่น นำรากเสาวรสไปต้มแล้วใช้ดื่มช่วยแก้ไข้หรือนำใบมาต้มกับน้ำใช้รับประทาน สามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิได้ หรือจะใช้เนื้อในของผลสุกมาทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม จะช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิตและช่วยให้ระบายได้ เป็นต้น อย่างไรก็ดี เสาวรสอ่อนบางสายพันธุ์ มีสารประกอบไซยาไนต์อยู่ที่เปลือก จึงไม่ควรรับประทานส่วนต่าง ๆ ของเสาวรสในแบบดิบเพราะอาจทำให้เกิดอันตราย ยกเว้นเนื้อและเมล็ดเท่านั้นที่สามารถทานได้ในแบบผลสด