กีวี เป็นผลไม้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่หลากชนิด หลายคนเชื่อว่ากีวีมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ช่วยบรรเทาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน กระตุ้นการทำงานของลำไส้และระบบขับถ่าย ช่วยให้หลับสบาย ส่งผลดีต่อระดับความดันโลหิต รวมถึงอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ เป็นต้น


คุณค่าทางโภชนาการของกีวี


กีวี 100 กรัม


• พลังงาน 60 กิโลแคลอรี


• โปรตีน 1.1 กรัม


• ไขมัน 0.5 กรัม


• คาร์โบไฮเดรต 14 กรัม


• น้ำตาล 8.9 กรัม


• วิตามินซี 92.7 มิลลิกรัม


วิธีทำน้ำกีวีปั่น


1. รสเปรี้ยวของกีวีเป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบ แต่ถ้ามันเปรี้ยวเกินไปก็คงจะไม่อร่อย จึงต้องผสมน้ำเขียวเข้มข้นและน้ำองุ่น เพื่อให้มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อยและรสชาติกลมกล่อม ชื่นใจ


2. กีวีปั่นวิธีทำอย่างแรกให้เตรียมวัตถุดิบดังนี้ กีวีที่ใช้ปั่น 2 ผล / กีวีสไลซ์สำหรับตกแต่งหน้า / น้ำองุ่น 1½ ถ้วยตวง / น้ำเขียวเข้มข้น 3 ช้อนโต๊ะ / น้ำแข็ง


3. นำกีวี 2 ผลที่ได้มาปอกเปลือกเหลือแต่เนื้อแล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ


4. นำกีวีที่ปอกเปลือก น้ำองุ่น น้ำเขียวเข้มข้น ใส่ลงไปในโถปั่น


5. ปั่นพอละเอียด ก็จะได้น้ำกีวี (จะใส่น้ำแข็งลงไปในโถปั่นเลยก็ได้)


6. หลังจากนั้นนำมารินใส่แก้วพร้อมน้ำแข็ง


7. ตกแต่งหน้าเล็กน้อยด้วยกีวีสไลซ์เพื่อความสวยงามและเพื่อให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น (ตกแต่งหรือไม่ก็ได้)


8. เสร็จแล้วน้ำกีวีปั่นฝีมือของคุณ


ประโยชน์ของกีวี


1. สุดยอดคุณค่าวิตามินอี


วิตามินอีได้รับการขนานนามว่าช่วยชะลอความแก่ชรา ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ลดความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ คุณสมบัติที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระของวิตามินอี นอกจากจะช่วยป้องกันเซลล์จากการเสื่อมสภาพแล้ว ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและช่วยในการไหลเวียนของเลือดอีกด้วย จากการวิจัยพบว่ากีวีมีปริมาณวิตามินอีสูงสุด โดยเฉพาะกีวีทองซึ่งมีวิตามินอีมากกว่ามะม่วงถึงหนึ่งเท่า


2. เต็มที่ด้วยพลังไฟเบอร์


ไฟเบอร์เป็นสารอาหารสำคัญต่อการทำงานของลำไส้ ช่วยดูดซึมน้ำ ทำให้อุจจาระนิ่มและเคลื่อนตัวได้ง่ายซึ่งเป็นผลดีต่อระบบขับถ่าย กีวีเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีไฟเบอร์ซึ่งอาจช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้ จากการศึกษาโดยให้ผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนกลุ่มที่มีอาการท้องผูกรับประทานกีวีวันละ 2 ลูก เป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าการรับประทานกีวีช่วยร่นระยะเวลาการเคลื่อนตัวของอุจจาระภายในลำไส้ใหญ่ กระตุ้นให้ขับถ่ายบ่อยขึ้น และช่วยปรับปรุงการทำงานของลำไส้ในผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนกลุ่มที่มีอาการท้องผูกได้ด้วย ดังนั้น กีวีอาจเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของลำไส้และระบบขับถ่ายหากรับประทานอย่างเหมาะสม


3. ช่วยให้หลับง่ายและสบายมากขึ้น


หลายคนมีเคล็ดลับการนอนหลับที่แตกต่างกันไป เช่น ดื่มนมอุ่น ๆ หรืองดเครื่องดื่มคาเฟอีนก่อนเข้านอน แต่บางรายเลือกรับประทานกีวีเพราะเชื่อว่าอาจช่วยทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น จากการศึกษาโดยให้อาสาสมัครรับประทานกีวี 2 ลูก ก่อนเข้านอน 1 ชั่วโมง ทุกคืนเป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าการรับประทานกีวีก่อนเข้านอนอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและชั่วโมงการนอนหลับได้ อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้เป็นเพียงการทดลองระยะสั้น มีผู้เข้าร่วมการทดลองจำนวนน้อย และส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จึงยังจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกีวีที่ส่งผลดีต่อการนอนหลับให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก่อนนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง


ในบางรายอาจมีอาการแพ้กีวีได้ เพราะผลไม้กีวีมีเอนไซม์ชนิดพิเศษซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุของอาการแพ้ได้ แต่อาการแพ้ดังกล่าวถือว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก ๆ หรือแทบไม่มีเลย แต่สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้กีวีสีเขียว คุณอาจจะไม่มีปัญหาหรือมีอาการแพ้กีวีสีทองก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ควรสอบถามแพทย์ก่อนที่จะรับประทาน