โต้คลื่น (Surfing) กีฬาของคนรักทะเล สายลม แสงแดด

กีฬา เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ที่เรามักจะเรียกกันสั้นๆ ว่าเล่นเซิร์ฟ หรือโต้คลื่น ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกมานานมาก ๆ โดยเฉพาะ 3-4 ปีหลังมานี้ เราจะสังเกตได้ว่าในไทยเอง เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ก็ป็อปขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ทั้งในหมู่บล็อกเกอร์ และบรรดาอินฟลูเอ็นเซอร์ต่างๆ ก็โดนเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกีฬาชนิดอื่นๆของ เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ตกกันไปเป็นที่เรียบร้อย

และถึงแม้จะเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งร่างกาย อุปกรณ์ สถานที่ ตลอดจนเรื่องของดินฟ้าอากาศ ซึ่งตอนเริ่มอาจจะดูยุ่งยากเล็กน้อย แต่รับประกันได้เลยว่าช่วงเวลาที่คุณได้ใช้ตอนอยู่บนกระดานทุกนาที...เป็นเรื่องที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน!

วิธีการเล่นโต้คลื่น

สำหรับการเล่นโต้คลื่นนั้น ก่อนอื่นต้องรู้จักอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ประกอบด้วย กระดานโต้คลื่นหรือเซิร์ฟบอร์ด มีหลายรูปแบบ เช่น ฟันบอร์ด (Funboard) คือกระดานที่เหมาะสำหรับมือสมัครเล่นที่สุด ชุดใส่เล่นโต้คลื่นที่ต้องมีลักษณะแบบชุดดำน้ำที่มิดชิดและรัดรูปเพื่อช่วยป้องกันอันตรายจากแรงคลื่นและ ลีช (Leash) สายรั้งที่ยึดระหว่างกระดานโต้กับขาของผู้เล่น ส่วนการลงไปเล่นโต้คลื่นในทะเล ก็ไม่มีแค่เพียงการยืนทรงตัวแต่ยังมีท่าทางและลีลาการเล่นที่ผู้เล่นต้องได้รับการฝึกฝนมาเพื่อความสนุกสนานท้าทายจากการทำให้แรงคลื่นส่งไป เช่น Kneeboard Surfing เป็นการใช้เข่าในการโต้คลื่น

ข้อควรรู้

ที่ผู้เล่นใหม่ควรทราบ

1. คลื่นไม่ได้มีทุกวัน...

คลื่นคือปัจจัยสำคัญสำหรับกีฬาโต้คลื่น แต่ตามที่เราทราบว่าคลื่นเกิดจากลม และลมมักมาพร้อมกับมรสุม

Surfing เป็นกีฬาที่อาศัยคลื่นเป็นหลัก ถ้าไม่มีคลื่นก็แปลว่าเราเล่นไม่ได้เลย ในทุกๆ ที่บนโลกนั้นมีฤดูกาล ฤดูกาลทำให้ทิศทางลมและกระแสน้ำเปลี่ยน เป็นสาเหตุที่ทำให้ในบางครั้งทะเลจะเรียบนิ่งไปเลย เพราะฉะนั้นใครจะไปโต้คลื่นที่หาดไหน ก็ควรศึกษาฤดูกาลของที่นั่นให้ดี

2. เล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ใจพร้อมแล้ว ร่างกายต้องพร้อมด้วย

สิ่งสำคัญอย่างแรกของการเล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ จะเป็นอะไรไม่ได้เลยนอกจากร่างกาย เพราะการเล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ถือเป็นกีฬาที่นอกจากผู้เล่นควรจะต้องว่ายน้ำเป็น และมีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงแล้ว ยังเป็นกีฬาที่ต้องใช้พลังงานพอสมควรอีกด้วย ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างก่อนลงน้ำ เพราะจะเสี่ยงต่อการเป็นลม และการเป็นตะคริวได้ง่ายๆ ก่อนเริ่มเล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ในแต่ละครั้ง ควรกินของที่ย่อยได้ง่ายอย่างผลไม้ หรือ ขนมปัง ที่สำคัญควรดื่มน้ำให้เพียงพอทุกครั้งก่อนลงสนาม

3.จะเซิร์ฟบอร์ดน้ำ ครั้งที่เท่าไหร่...ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ

นอกจากเล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ให้สนุกแล้ว เรื่องความปลอดภัยถือเป็นอีกเรื่องที่จะละเลยไม่ได้เด็ดขาด เป็นเรื่องที่ควรจะโฟกัสไม่แพ้เรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องของการใช้ SURF LEASH หรือสายรัดข้อเท้า จะต้องใช้ให้ถูกต้อง และย้ำว่าจะต้องใส่ทุกครั้งที่เล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ แม้ในช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่ค่อยถนัด แต่ใส่ไปสักพักก็จะเริ่มชินไปเอง รวมถึงเรียนรู้สัญลักษณ์การขอความช่วยเหลือต่างๆ ในน้ำ เช่น เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทั่วไปในทะเล ให้ชูมือขึ้นหนึ่งข้าง และกำหมัด เพื่อส่งสัญญาณให้คนที่อยู่รอบข้างรู้ เป็นต้น หากเล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ได้อย่างปลอดภัย การเจ็บตัวแบบไม่จำเป็นก็จะลดลง และไม่รู้สึกหมดสนุก หรือถอดใจในการเล่นไปแบบง่ายๆ

4.เซิร์ฟบอร์ดน้ำ เลือกชุดให้ดีมีชัยกว่าครึ่ง

ตัวช่วยสำคัญอีกอย่างในการเล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ครั้งแรก ที่จะปล่อยเซอร์ไม่ได้เลยก็คือ การใส่ชุดที่เหมาะสมกับการเล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ นั่นเอง เสื้อผ้าที่ใส่ควรเป็นแบบปิดมิดชิด โดยเฉพาะสาวๆ ควรเลือกเสื้อผ้าที่กระชับ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ หรือหากเป็น Rashguard แบบแขนยาวได้ ก็จะดีมากๆ เพราะจะช่วยป้องกันของมีคม และพิษเล็กๆ น้อยๆ จากสัตว์ทะเลในขณะที่เรากำลังเล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ทั้งนี้ควรเลือกแบบที่เนื้อผ้ามี UPF 50+ เพราะจะช่วยเรื่อง UV Protection ลดความเสี่ยงที่จะเกิดผิวไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.อุปกรณ์ทีใช้เล่น

“อุปกรณ์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” ในที่นี่เราหมายถึงอุปกรณ์ที่มีสภาพสมบูรณ์ดี เหมาะที่จะใช้ในการฝากชีวิตของคุณเองไว้ตอนออกไปโต้คลื่น ไม่ว่าจะเป็นตัวบอร์ด แว็ก สายรัดข้อเท้า หรือ ฟิน

เพราะหากคุณไม่สังเกตว่าสายรัดข้อเท้าของคุณนั้นมีรอยขาดอยู่ก่อนแล้วในขณะที่คุณกำลังโต้คลื่นสูง 2 เมตร คุณคงไม่ต้องสงสัยหากคุณรู้จะตัวอีกที บอร์ดของคุณก็หนีคุณไปอยู่ที่ฝั่งเรียบร้อยแล้ว การตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ก่อนลงเล่นเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ เช่น สายรัดข้อเท้าที่รัดแน่นหนาทั้งตรงบริเวณปลายบอร์ด ตัวเชือกไม่มีรอยขาด หรือบอร์ดที่มีแว๊กทาทั่วทั้งลำ หรืออาจพกก้อนสำรองไปซักก้อนนึง เอาไว้ทาตอนที่คุณรู้สึกว่ามันเริ่มจะไม่เหนียว

อีกสิ่งสำคัญของอุปกรณ์คือการดูแลรักษาและถนอมการใช้งาน หากคุณดูแลรักษาอุปกรณ์ของคุณให้อยู่ในสภาพที่ดี เก็บในพื้นที่ที่เหมาะสม อายุการใช้งานของพวกเค้าก็จะสูงขึ้น โอกาสที่อุปกรณ์จะเสียหายก็จะน้อยลงไปด้วยเช่นเดียวกัน

6. อาหารให้พลังงานสำหรับนักเซิร์ฟ

ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างหรืออดอาหารก่อนลงน้ำ เพราะจะทำให้เราไม่มีแรง บางครั้งอาจทำให้เป็นลมเพราะการเหนื่อย และการเป็นลมในน้ำเป็นเรื่องอันตรายมาก ควรวางแผนเลือกทานอาหารล่วงหน้าและเลือกเมนูที่ย่อยง่าย ใช้พลังงานได้เลย เช่นกล้วย ไข่ เนื้อปลา หรือโยเกิร์ต อาจจะทำให้เซฟเวลาที่คุณจะต้องนั่งรอและทำได้แค่มองเพื่อนๆเล่นโต้คลื่น

7.การสร้างสัมพันธ์ที่ดี

กีฬาโต้คลื่นจะมีกฎพิเศษซึ่งบางคนอาจจะทราบดี เป็นกฎที่มักใช้กันในพื้นที่ที่มีนักเซิร์ฟเจ้าถิ่นเล่นอยู่เป้นประจำ จะเรียกกฎนี้ว่า “Local Rule” หรือกฎของเจ้าถิ่น ที่นั้นหากคุณทำตัวสะดุดตาเจ้าถิ่น หรือทำให้เจ้าถิ่นไม่พอใจ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือคุณอาจโดนห้ามไม่ให้เล่นในพื้นที่นั้นๆได้อีกเลย

สำหรับเมืองไทยเราไม่ได้ซึมซับค่านิยมเหล่านั้นมา อาจเพราะความมีน้ำใจของคนไทยที่มักช่วยเหลือกัน ยิ้มแย้มให้กันจึงทำให้สังคมโต้เคลื่นของเราเป็นสังคมที่เป็นกลุ่มก้อน เหนียวแน่น และมีความผูกพันธ์กัน แม้ไม่เคยพบเจอกัน

อย่างไรก็ตาม การเป็นเพื่อนบ้านที่ดีเมื่อเดินทางไปโต้คลื่นตามที่ต่างๆ จะทำให้คุณได้มิตรภาพกลับไปด้วยแน่อน

8.อย่าหาทำ! ถ้านี่คือการเล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ครั้งแรก

ไม่ว่าคุณจะคิดว่ามันง่ายแค่ไหนก็ตาม หากนี่คือการเล่น เซิร์ฟบอร์ดน้ำ ครั้งแรกของคุณ อย่าได้คิดที่จะไปลองเล่นเองคนเดียว เพราะมันเป็นเรื่องที่อันตรายสุดๆ ลองหาเพื่อนที่มีประสบการณ์มาช่วยสอน หรือไปลงคอร์สเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราวที่เซิร์ฟแคมป์ และควรหาข้อมูลของครูล่วงหน้า

ปัจจุบันประชากรนักโต้คลื่นเติบโตขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็เคยผ่านการเรียนและการฝึกฝนทักษะของกีฬาโต้คลื่นกันมา หากคุณเป็นผู้ที่คลั่งไคล้แต่ไม่เคยมีประสบการณ์แนะนำให้หาโรงเรียนเพื่อเรียนพื้นฐานเกี่ยวกับกีฬาโต้คลื่นก่อน ในปัจจุบันมีโรงเรียนหลายแห่งที่ให้บริการรับสอนพื้นฐานเกี่ยวกับกีฬาโต้คลื่น ทั้งมือใหม่

หรือผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะของตัวเองให้เก่งยิ่งๆขึ้นไป โรงเรียนเหล่านี้ได้รับการรับรองและการอบรมการสอนทั้งในส่วนของบทเรียนและผู้ฝึกสอนเพื่อให้ได้มาตรฐาน ทำให้ผู้เรียนไม่เพียงได้สนุกกับกีฬาโต้คลื่น แต่ยังได้ทั้งความรู้และความปลอดภัยอีกด้วย เพราะหากคุณเลือกวิธีเรียนรู้ด้วยตนเองล่ะก็ อาจจะจบลงด้วยการไปโรงพยาบาลและไม่กลับมาเล่นโต้คลื่นอีกเลยก็เป็นได้