เคยเป็นไหม คิดว่าเราถนอมแว่นตาคู่ใจของเราแบบสุดๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่วาย เลนส์เป็นรอยบ้าง รู้สึกว่าแว่นเสียรูปทรงบ้าง ล้างกี่ครั้งก็รู้สึกไม่สะอาด และยิ่งเราเป็นคนที่ต้องใช้แว่นสายตาอยู่เป็นประจำ ต้องสัมผัสอยู่ตลอดทั้งวัน ยิ่งเห็นว่าเป็นรอยหรือสกปรกก็ยิ่งหงุดหงิดรำคาญใจ วันนี้เราก็เลยรวบรวม 5 วิธีถนอมแว่นสายตาสุดที่รักแบบง่ายๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเองมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้ลองนำไปใช้กัน ดังนี้

เก็บแว่นตาใส่กล่องทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน

หากเราไม่ได้มีความจำเป็นต้องใส่แว่น เช่น เวลาพัก เวลาทานอาหาร เวลาอาบน้ำ หรือเวลานอน เราควรจะเก็บแว่นของเราไว้ในกล่องแว่นให้เรียบร้อย ทางที่ดีควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ปิดเลนส์ทั้งด้านหลังและด้านหน้าก่อนเก็บใส่กล่องแว่นให้เรียบร้อยค่ะ นอกจากจะป้องกันแว่นจากพวกไรฝุ่นแล้ว เราก็ยังไม่ต้องมาคอยลุ้นว่ามันจะตกเอาตอนไหน โดยเฉพาะคนที่ชอบใส่แว่นไว้ในกระเป๋าเสื้อ ต้องห้ามเลยนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้เลนส์ไปขูดขีดกับสิ่งของที่เก็บในกระเป๋าแล้ว เชื่อได้เลยว่า ไม่นานแว่นต้องหล่นแน่ๆ ไม่เลนส์แตก ก็ขาแว่นพัง ทางที่ดีเก็บให้ดีไว้ก่อนที่จะเกิดปัญหาอย่างใดก็อย่างหนึ่งจะดีที่สุด

เก็บไว้ในกล่องเก็บแว่นตา เพื่อไม่ให้ผิวเลนส์มีรอยขีดข่วนและท้ายที่สุดแล้วหลังการใช้งานทุกครั้ง ควรทำความสะอาด ก่อนเก็บป้องกันการผุกร่อนของกรอบแว่นถอดเก็บไว้ในกล่องเก็บแว่นตา ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแว่นตาให้ สามารถใช้ได้อย่างยาวนาน

ควรหลีกเลี่ยงจากความร้อน

ควรหลีกเลี่ยงการวางแว่นตาไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น หน้ารถ ห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ เป็นต้น เพราะเลนส์แว่นจะมีการเคลือบสารไว้หลายชั้นที่แตกต่างกัน เมื่อได้รับความร้อนที่ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป อาจทำให้เลนส์มีการยืด และหดตัว อาจทำให้ผิวเคลือบ (มัลติโค๊ต) เกิดการแตกเป็นรอยได้

ห้ามเช็ดแว่นตาด้วยเสื้อ

หากไม่อยากให้เลนส์แว่นตาเป็นรอยต้องเลิกนิสัยการเช็ดแว่นตาด้วยชายเสื้อ ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์สำหรับเช็ดเลนส์แว่นตาโดยเฉพาะ เนื่องจากเส้นใยผ้าถูกออกแบบมาด้วยความละเอียดสูง จึงช่วยลดโอกาสที่เลนส์จะเกิดรอยขณะเช็ดแว่นได้ ไม่ควรใช้ทิชชู่หรือเสื้อผ้าเพื่อเช็ดเลนส์เนื่องจากมีความหยาบทำให้เลนส์เป็นรอยได้ หากเลนส์เปียกมากหลังจากล้างแว่นแนะนำให้ใช้ทิชชู่ซับหมาดได้แต่ห้ามถู จากนั้นค่อยเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์อีกที

ทำความสะอาดแว่นให้ถูกวิธี

การล้างแว่นตา ควรล้างด้วยน้ำเปล่าและสบู่ที่ไม่มีไขมัน เช่น น้ำยาล้างจาน เป็นต้น เพื่อชะล้างฝุ่นละออง คราบน้ำมัน จากมือและหน้า แล้วใช้ผ้าสะอาด หรือกระดาษทิชชูซับให้แห้งสนิท ห้ามเช็ดเพราะจะทำให้สารเคมีที่เคลือบเลนส์หลุด มีรอยขีดข่วนได้ ไม่ควรปล่อยให้แว่นตาแห้งเอง เพราะอาจเกิดคราบหมองติดเลนส์ได้ หรือถ้าท่านเลือกที่จะทำความ สะอาดกับน้ำยาล้างเลนส์ให้เป่าฝุ่น หรือล้างด้วยน้ำเปล่าก่อน แล้วจึงเช็ดด้วยน้ำยาทำความสะอาดเลนส์ด้วย ผ้าที่นุ่ม ที่สุด

ข้อควรระวังในการล้างเลนส์

เมื่อเลนส์แว่นมีคราบจากเหงื่อ, เครื่องสำอางค์, โลชั่นและคราบต่างๆ ควรล้างทันที เพราะสิ่งสกปรกเหล่านี้มีฤทธิ์เป็นกรด-เบส หากปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้โค้ดเลนส์เสื่อมสภาพได้ แถมสารเคมีจากเครื่องสำอางค์บางชนิดอาจทำลายโค้ดเลนส์ได้อีกด้วย

ใช้น้ำอุณหภูมิห้องปกติหรืออุ่นเล็กน้อยเพื่อล้างแว่น ควรหลีกเลี่ยงน้ำร้อนหรือเย็น เพราะทำให้โค้ดเสื่อมสภาพไวขึ้นกว่าปกติ

ใช้สบู่เหลวที่มีคุณสมบัติ PH balance เพื่อล้างเลนส์ ควรเลือกใช้ PH balance เพื่อให้น้ำยาที่ใช้มีฤทธิ์เป็นกรด-เบสน้อยที่สุด เพราะกรดหรือเบสที่รุนแรงมากเกินไปจะส่งผลให้ผิวเลนส์เสียได้ นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการเกิดรอยแตกลายงาที่เกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพของโค้ดบนผิวเลนส์ได้อีกด้วย วิธีใช้งานควรใช้เพียงหยดเดียวเจือจางน้ำเล็กน้อยบนนิ้วมือก่อนถูลงบนเลนส์ ห้ามใช้น้ำยาล้างเล็บเพราะมีอะซิโตนผสมอยู่ซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนเลนส์อย่างรุนแรง

เน้นล้างมากกว่าเช็ดด้วยผ้าเพียงอย่างเดียว เพราะเม็ดฝุ่นที่เกาะอยู่บนผิวเลนส์มีคุณสมบัติเป็นอนุภาคของแข็ง เมื่อถูกกดด้วยผ้าจะมีโอกาสสูงที่เลนส์จะเกิดรอยขึ้นได้

ไม่ควรใช้แอลกอฮอล์แบบฉีดทำความสะอาด เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนวัสดุเลนส์คล้ายกับอะซิโตน ซึ่งที่จริงแล้วเพียงแค่สบู่เหลว PH balance ที่แนะนำก็เพียงพอต่อการฆ่า

เวลาจะใส่หรือถอดแว่น

การใส่และถอดแว่นให้จับขาแว่นทั้งสองข้าง แล้วใส่หรือดึงออกมาจากใบหน้าโดยตรง เพราะส่วนมากคนมักจะจับขาแว่นข้างเดียวแล้วถอดออก จะทำให้แว่นตาเสียรูป และทำให้ขาแว่นหลวมได้

วิธีหยิบจับ เริ่มตั้งแต่การจับแว่นตาควรจับทั้งสองมือ เพราะการจับมือเดียวอาจทำให้แว่นตา เสียรูปทรงได้ และทำให้ ตำแหน่งศูนย์คลาดเคลื่อนจากสายตา

ในการวางแว่น

หลีกเลี่ยงการคว่ำหน้าแว่นลงบนพื้น เพราะเป็นการเพิ่มโอกาสให้เลนส์ขูดกับพื้นโต๊ะต่างๆจนเป็นรอยมากขึ้นได้

หลีกเลี่ยงการยกแว่นขึ้นไปวางไว้บนหัวเนื่องจากเส้นผมจะมีไขมันถูกเคลือบอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเหงื่อออก ซึ่งผมอาจโดนเลนส์จนสกปรกได้