ราสเบอร์รี่ซึ่งมักถูกมองข้ามไป.เป็นผลไม้ที่สมควรได้รับความสนใจไม่เฉพาะเพียงรสชาติที่น่ารื่นรมย์เท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ทางโภชนาการด้วย
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่ของว่างสดใหม่ไปจนถึงของหวานที่ละเอียดอ่อน ราสเบอร์รี่สามารถยกระดับอาหารจานใดก็ได้ที่มีโปรไฟล์รสชาติของมัน
บทความนี้พยายามเน้นย้ำถึงความเก่งกาจของราสเบอร์รี่ และแนะนำสูตรอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับทั้งพ่อครัวมือใหม่และผู้มีประสบการณ์
บางสิ่งเกี่ยวกับราสเบอร์รี่
ราสเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่โดดเด่น อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพตั้งแต่การย่อยอาหารที่ดีขึ้นไปจนถึงการป้องกันมะเร็งที่อาจเกิดขึ้น มีให้เลือกหลายสี เช่น สีแดง สีดำ สีม่วง และสีทอง แต่ละพันธุ์มีรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการที่เป็นเอกลักษณ์
นอกเหนือจากคุณประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ราสเบอร์รี่ยังมีประวัติการเพาะปลูกที่น่าสนใจ และขณะนี้มีการปลูกทั่วโลก โดยเปิดให้ผู้สนใจรับประทานได้ตลอดทั้งปี ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดประการหนึ่งของราสเบอร์รี่คือรสชาติที่เข้มข้น ซึ่งทำให้เกิดความสมดุลที่ลงตัวระหว่างความหวานและทาร์ต ทำให้เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมในสูตรอาหาร โดยสามารถเพิ่มความลึกและความแตกต่างให้กับอาหารทั้งคาวและหวานได้ นอกจากนี้ เฉดสีที่สดใสยังช่วยเพิ่มความดึงดูดสายตาให้กับจานใดๆ ได้อีกด้วย ทำให้อาหารจานนี้น่ารับประทานพอๆ กับรสชาติที่รับปาก
สูตรใหม่แสนอร่อย: เค้กราสเบอร์รี่ดรีม
วัตถุดิบ:
สำหรับเค้ก:
1. แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง
2. ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือ 1/2 ช้อนชา
4. เนยจืด 1/2 ถ้วย
5. น้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วย
6. ไข่ขนาดใหญ่ 4 ฟอง
7. สารสกัดวานิลลา 1 ช้อนชา
8. นมสด 3/4 ถ้วย
สำหรับใส่ราสเบอร์รี่:
1. ราสเบอร์รี่สด 2 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายละเอียด 1/2 ถ้วยตวง
3. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
4. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
สำหรับฟรอสติ้ง:
1. เนยจืด 1 ถ้วยทำให้นิ่มลง
2. น้ำตาลผง 4 ถ้วย
3. สารสกัดวานิลลา 1 ช้อนชา
4. เฮฟวี่ครีมหรือนม 24 ช้อนโต๊ะ
5. ราสเบอร์รี่สดสำหรับตกแต่ง
คำแนะนำ:
1. เปิดเตาอบที่ 350°F
2. ผสมแป้ง ผงฟู และเกลือลงในชาม ในชามอีกใบ ตีเนยและน้ำตาลให้เข้ากัน ใส่ไข่ทีละฟอง ตามด้วยวานิลลา ผสมให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมแห้งและนมสลับกัน โดยเริ่มด้วยส่วนผสมแห้งแล้วปิดท้ายด้วยนม เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมเข้ากันดี
3. แบ่งแป้งเท่าๆ กันในกระทะที่เตรียมไว้ อบประมาณ 25--30 นาที เย็นบนตะแกรง
4. รวมราสเบอร์รี่ น้ำตาล และน้ำมะนาวลงในกระทะ ตั้งไฟปานกลางแล้วปรุงจนผลเบอร์รี่เริ่มแตกสลาย เพิ่มส่วนผสมแป้งข้าวโพดและปรุงอาหารจนข้นและกวนตลอดเวลา เย็นสนิท
5. ทำฟรอสติ้ง: ตีเนยจนเป็นครีม ค่อยๆ ใส่น้ำตาลไอซิ่ง จากนั้นจึงใส่สารสกัดวานิลลา และครีม จนกระทั่งได้ความคงตัวที่ต้องการ
6. วางเค้กหนึ่งชั้นลงบนจาน โรยราสเบอร์รี่ลงไปด้านบน และปิดด้วยเค้กอีกชั้น เกลี่ยฟรอสติ้งที่เตรียมไว้ทั้งด้านบนและด้านข้าง
ราสเบอร์รี่มีการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของรสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และความอเนกประสงค์ ที่สามารถเปลี่ยนอาหารง่ายๆ ให้กลายเป็นการสร้างสรรค์ที่พิเศษสุดได้ เค้กราสเบอร์รี่ดรีมเค้กเป็นตัวอย่างว่าผลเบอร์รี่เหล่านี้สามารถยกระดับของหวานคลาสสิกให้กลายเป็นสิ่งที่สวยงามน่าทึ่งและอร่อยไม่แพ้กันได้