การทำอาหารนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงเฉพาะการปรุงอาหารเพื่อให้คนอื่นหรือตนเองได้กินเพียงเท่านั้น หากแต่การทำอาหารนั้น แฝงนัยยะบางอย่างที่เป็นประโยชน์เอาไว้อย่างแยบคาย ซึ่งในช่วงนี้ อาจเป็นช่วงที่หลายคน มีเวลาอยู่ติดบ้านทำอาหารกันมากขึ้น บทความนี้จะมาแชร์ถึงประโยชน์หรือสิ่งที่ได้จากการทำอาหาร ซึ่งจะทำให้มุมมองของคุณต่อการฝึกฝนทำอาหารไม่ธรรมดาอีกต่อไป
ประโยชน์จากการทำอาหาร
1. ช่วยเสริมสร้างสุขภาพ
การเรียนรู้การทำอาหาร การรู้วิธีเตรียมอาหารแบบต่าง ๆ การเตรียมสูตรอาหารใหม่ ๆ และการรู้จักส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ จะทำให้คุณมีวัฒนธรรมการกินที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณเอง โดยลดการบริโภคผลิตภัณฑ์แปรรูป หรืออาหารจานด่วนและด้วยการให้ความสำคัญกับผักและผลไม้จากซูเปอร์มาร์เก็ต คุณสามารถนำนิสัยการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและหลากหลายมาใช้
2. ฝึกความอดทน
การทำอาหารนั้น เป็นการฝึกความอดทนชั้นยอด เพราะบางครั้ง คุณจะต้องเผชิญกับทั้งความเหนื่อยและความร้อน คุณอาจจะต้องอยู่หน้าเตาที่มีอุณหภูมิความร้อนสูง อาจจะต้องยืนหรือเดินไปเดินมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพราะไม่สามารถนั่งได้ในระหว่างที่ทำอาหาร หรือแม้กระทั่งการหั่นผักอย่างหัวหอม ที่อาจจะทำให้คุณเสียน้ำตาได้ นั่นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องอดทนทั้งสิ้น การทำอาหารจึงเป็นเครื่องมือฝึกความอดทนได้ชั้นดีทีเดียว แต่หากคุณผ่านมันไปได้ ก็เท่ากับว่า คุณมีความอดทนที่ดีเลิศเลยล่ะ
3. รู้จักการบริหารเวลา
เวลา เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำอาหาร คุณจะต้องรู้จักการควบคุมเวลาให้ดีที่สุด จะเห็นได้ว่า ในครัวระดับมืออาชีพจะมีนาฬิกาแขวนไว้เสมอ หรืออาจจะเห็นว่า เชฟมีนาฬิกาข้อมือที่จับเวลาได้ทุกคน การฝึกฝนทำอาหารคือการฝึกฝนการตรงต่อเวลา และการบริหารเวลาให้คุ้มค่าที่สุด เพราะคุณจะต้องทำอาหารให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด ไม่ควรใช้เวลานานมากจนเกินไป หรือแม้กระทั่ง การต้ม ตุ๋น ทอด นึ่ง หรือการหมักวัตถุดิบนั้น ล้วนแล้วแต่มีเวลากำหนดที่ชัดเจน ว่าควรใช้เวลาเท่าไหร่ จึงจะทำให้อาหารที่ปรุงนั้นออกมาดี การทำอาหารจึงเป็นเครื่องฝึกการบริหารเวลาได้อย่างดีเยี่ยม
4. ค้นหาความถนัด
การได้ลองอะไรหลายอย่างนับเป็นข้อดี เพราะในบางครั้งอาจจะสับสนและยังค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบในการเรียนไม่เจอ การเรียนทำอาหารถือเป็นตัวเลือกที่ดีตัวเลือกหนึ่ง เพราะการเรียนคือการปฎิบัติจริง และใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่เรียนอย่างเต็มที่ ในบางครั้งความสับสนที่มีอาจจะลดน้อยลงเมื่อได้ลองทำแล้วพบว่าสิ่งที่ทำนั้นใช่หรือไม่ใช่แนวทางของตัวเอง
5. ฝึกสมาธิ
การทำอาหารนั้นจะต้องใช้สมาธิขั้นสูง เพราะคุณจะต้องอยู่กับของมีคม ซึ่งจะต้องใช้สติและสมาธิ เพื่อความปลอดภัยในระหว่างการทำอาหาร ซึ่งถือเป็นการฝึกสมาธิได้อย่างดีเยี่ยม
6. ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
สำหรับบางคน จะใช้วิธีคลายเครียดด้วยการทำอาหาร เพราะเพียงแค่เริ่มเดินหาวัตถุดิบในตลาด ทั้งหมูเห็ด เป็ดไก่ ผัก ผลไม้ และเครื่องปรุง ก็จะทำให้เกิดความสนุกและมีความสุขแล้ว
7. เป็นทักษะที่สามารถต่อยอดได้
ประการสุดท้าย เป็นประโยชน์ที่น่ายินดีอย่างมาก สำหรับผู้ที่เรียนทำอาหาร เพราะนอกจากที่คุณจะสามารถทำอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว คุณยังสามารถนำความรู้เหล่านี้ ไปต่อยอดเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน หรือประกอบกิจการทางด้านร้านอาหารและภัตตาคาร เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตนเองได้อีกทางหนึ่งด้วย และถ้าหากคุณเคยสมัครเรียนทำอาหารในโรงเรียนสอนทำอาหารที่มีชื่อเสียง หรือได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และคุณได้รับใบรับรองการศึกษาจากสถาบันแห่งนั้น จะยิ่งเพิ่มโอกาสความก้าวหน้า และความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจทางด้านอาหารของคุณด้วยว่า คุณคือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารอย่างแท้จริง และคุณภาพในการทำอาหารของคุณนั้นได้รับการรับรองรองจากมาตรฐานสากลด้วย
จะเห็นได้ว่าการทำอาหารกินเองนั้น ไม่เพียงมีส่วนช่วยทำให้รู้ที่มาของอาหาร เเละเลือกปรุงอาหารให้ดีต่อสุขภาพเท่านั้น เเต่ยังมีส่วนช่วยพัฒนาจิตใจ ทำให้มีสมาธิ ผ่อนคลาย เเละมีความสุข พร้อมที่จะเริ่มต้นวันใหม่ได้อีกด้วยนะคะ