การซักผ้าให้สะอาดหมดจด พร้อมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายซะทีเดียว เพราะนอกจากจะมีคราบสกปรกที่ต้องต่อสู้ด้วยแล้ว ปัญหาในเรื่องของการซักผ้าก็ยังมีเรื่องการถนอมเนื้อผ้า และการคงสีสัน รูปทรง และใยผ้าให้ใช้ได้นาน ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ควรต้องมีเคล็ดลับสำหรับจัดการด้วยเช่นกัน บทความนี้ก็เลยนำเคล็ดลับเกี่ยวกับการซักผ้าให้สะอาดหมดจด และใช้ได้นานมาบอก แถมด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเรื่องซักผ้าอีกมากมายด้วยจ้า
1. กำจัดคราบเหลืองด้วยแอสไพริน
โดยบดยาแอสไพรินขนาด 325 มิลลิกรัม จำนวน 5 เม็ด จากนั้นก็นำไปละลายในน้ำร้อนปริมาณ 2 ลิตร เสร็จแล้วนำเสื้อผ้าขาวลงไปแช่ อย่าลืมกดให้ทุกส่วนจมลงไปในน้ำ แล้วปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อรอให้กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ออกฤทธิ์ จากนั้นก็นำมาซักตามปกติ เท่านี้ก็จะช่วยให้เสื้อผ้ากลับมาขาวสะอาดแล้วค่ะ ซึ่งนอกจากนี้ยาแอสไพรินยังสามารถกำจัดคราบเลือดบนเสื้อผ้าได้ด้วย โดยให้ละลายยาแอสไพรินลงในน้ำเย็น (อย่าใช้น้ำร้อนเด็ดขาด เพราะจะทำให้คราบยิ่งฝังลึก) จากนั้นก็นำเสื้อผ้าที่มีคราบลงไปแช่ ถ้าคราบแห้งก็ให้นำยาแอสไพรินบดไปถูบริเวณที่มีคราบ ปล่อยทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง แล้วค่อยซัก
2. ถนอมเนื้อผ้าด้วยการฉีดน้ำส้มสายชูดับกลิ่น
ใครที่ชอบเปลี่ยนเสื้อผ้าหลายชุดในแต่ละวัน และเสื้อผ้าแต่ละตัวก็ใส่เดี๋ยวเดียว เรียกได้ว่ายังไม่ทันสกปรกพอที่จะซัก ก็สามารถฉีดน้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละครึ่งลงบนจุดที่มักจะมีกลิ่นเหม็นสาบเหงื่อ เช่น ใต้วงแขน คอปกเสื้อ เป็นต้น แล้วนำไปตากในที่ที่มีแดดจัด ๆ ลมโกรกดี ๆ แทนการนำผ้าไปซักก็ได้ แค่นี้ก็จะช่วยถนอมเนื้อผ้าให้ใช้ได้ยาวนานมากขึ้นแล้วล่ะ
3. ซักผ้าขาวให้ขาวหมดจดไปกับเบกกิ้งโซดา
สำหรับผ้าเนื้อบางที่ไม่เหมาะจะใช้น้ำส้มสายชูช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใส ก็เปลี่ยนมาใช้เบกกิ้งโซดาแทนก็ได้ โดยทุกครั้งที่ซักผ้าขาว ให้เติมเบกกิ้งโซดาผสมลงไปกับผงซักฟอกสัก ½ ถ้วยตวง แค่นี้ผ้าขาวก็จะดูขาวสะอาดหมดจดยิ่งกว่าที่เคยแล้ว
4. ควรแยกผ้าตามเส้นใยของผ้า
การซักผ้านอกจากที่จะต้องแยกผ้าขาวออกจากผ้าที่เป็นสีแล้ว ก็ควรที่จะต้องคำนึงถึงเส้นใยของผ้าด้วย เช่น หากผ้ามีเส้นใยหนาและมีการดูดซับน้ำได้เยอะกว่าผ้าที่มีเส้นใยบาง ซึ่งจะใช้เวลาในการล้างผงซักฟอกนานกว่าปกติ นอกจากนี้ยังจะต้องคำนึงถึงอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ในการซักอีกด้วย เพราะมันมีผลต่อสีของเสื้อผ้า
5. ซักผ้าที่หดด้วยแชมพูของเด็ก
แชมพูเด็กหรือครีมนวดผมสามารถช่วยเปลี่ยนผ้าที่หดให้ขยายขนาดกลับมากเป็นปกติได้ เพียแค่แช่ผ้าเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที เส้นใยผ้าก็จะยืดกลับมาเท่ากับขนาดเดิม
6. ใช้ครีมโกนหนวดลบคราบเครื่องสำอาง
ถ้ามีคราบเครื่องสำอางติดบนเสื้อผ้าแล้วซักออกไม่หมดซะที ให้นำครีมโกนหนวดมาถูบริเวณที่มีคราบ แล้วปล่อยทิ้งไว้ 10-15 นาที ก่อนซักตามปกติ หากไม่สามารถกำจัดออกได้ในครั้งเดียวก็ให้ทำซ้ำอีกครั้ง
7. ลดกลิ่นอับในเสื้อผ้าด้วยกระดาษฟอยล์
จากที่เคยกังวลกับกลิ่นอับในเสื้อผ้าหลังการซักผ้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ให้คุณปั้นกระดาษฟอยล์เป็นก้อนกลม ๆ ใส่ลงไปในเครื่องซักผ้าในขั้นตอนการปั่นแห้งครั้งสุดท้ายด้วย สารในกระดาษฟอยล์จะช่วยดูดกลิ่นเหม็นอับและแบคทีเรียออกไป และช่วยให้ผ้าหอมสดชื่นได้มากขึ้น
เสื้อผ้าที่ใส่ไปนานก็ต้องเสียทรงหรือสีซีดลงเป็นธรรมดา แต่ก็สามารถยืดเวลาการใช้งานออกไปได้ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ที่จะช่วยรักษาทรงและสีสันของเสื้อผ้าให้สวยงาม สดใส ไม่ดูเก่า พร้อมทั้งใส่ได้นานขึ้น