อาการ “ปวดหลัง” ไม่ใช่อาการที่ถูกจำกัดไว้แค่กับกลุ่มผู้สูงอายุอีกต่อไป เนื่องจากปัจจุบัน การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นับเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ทำกัน การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานและไม่ได้ลุกยืนยืดเส้นยืดสายนี้เอง ที่มีผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการปวดหลัง หรือหนักไปกว่านั้นคือนำไปสู่โรคยอดฮิตอย่าง “ออฟฟิศซินโดรม” อีกด้วย โดยวันนี้จะมาทำความรู้จักกับ ท่านั่งยอดฮิตที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลัง มีท่าไหน และคุณนั่งท่าดังกล่าวเป็นประจำหรือไม่ มาดูกัน!


1. นั่งไขว่ห้าง


การนั่งไขว่ห้างเป็นการทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง หากนั่งไขว่ห้างในท่าเดิมนาน ๆ จะส่งผลให้ปวดหลัง และหากติดการนั่งไขว่ห้างเป็นประจำ อาจทำให้กระดูกสันหลังคดงอ ผิดรูป หรือร้ายแรงกว่านั้นคือทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อม อาจถึงขั้นต้องผ่าตัด นอกจากทำให้ปวดหลังแล้ว การนั่งไขว่ห้างยังทำให้เส้นเลือดที่ขาถูกกดทับ เลือดสูบฉีดไม่เต็มที่ ทำให้ขาชา หรือมีอาการปวดเมื่อย ทั้งยังทำให้ต้นขาใหญ่ขึ้น ด้วยความที่เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เกิดอาการบวมน้ำ และเกิดไขมันสะสมที่ต้นขาเพิ่มมากขึ้นได้


2. นั่งหลังงอหรือหลังค่อม


เป็นท่านั่งทำงานที่มักไม่รู้ตัว และไม่ได้ตั้งใจ เพราะเกิดจากการนั่งในท่าเดิม ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเวลาที่กำลังทำงานติดพันจนไม่อยากลุกออกจากเก้าอี้ การนั่งหลังงอหรือหลังค่อมจะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง จนก่อให้เกิดการคั่งของกรดแลคติก ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยที่บริเวณหัวไหล่และสะโพก ถ้าสะสมเป็นเวลานานอาจทำให้กระดูกผิดรูปได้


3. การนั่งเก้าอี้แบบไม่เต็มก้น หรือหลังไม่ชิดพนัก


หลายคนอาจสงสัยว่าการนั่งเก้าอี้แบบไม่เต็มก้นสามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังได้อย่างไร ในเมื่อมันก็เป็นท่านั่งที่ค่อนข้างสบาย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อนั่งในบริบทนั้นไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง กล้ามเนื้อจะเริ่มทำงานหนักเนื่องจากฐานรองรับน้ำหนักตัวนั้นไม่สมดุล ส่งผลให้เกิดการปวดได้


4. การนั่งห่อตัวหรือนั่งกอดอก


การนั่งในบริบทนี้จะทำให้หัวไหล่ สะบัก และแผ่นหลังช่วงบนของร่างกายถูกยืดออก เมื่อแผ่นหลังช่วงบนค่อมแล้วงุ้มไปด้านหน้าจะทำให้กระดูกคอยื่นออกไปด้านหน้าเช่นกัน และการยื่นของกระดูกคอนี้มีผลต่อเส้นประสาทที่ไม่ไปหล่อเลี้ยงแขน หากนั่งท่านี้ตลอดเวลา นานวันเข้า ก็จะเกิดอาการชาและมือมีอาการอ่อนแรงได้ ถึงแม้จะไม่ส่งผลต่อการปวดหลังโดยตรง แต่ท่านั่งนี้ก็ค่อนข้างไม่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน


นั่งทำงานยังไงให้ไม่ปวดหลัง?


• อันดับแรก ขอแนะนำให้ชาวออฟฟิศลุกขึ้นมาจัดพื้นที่ทำงานให้เป็นกิจจะลักษณะ มีโต๊ะ มีเก้าอี้ อาจเป็นเก้าอี้เพื่อสุขภาพ (Ergonomic) หรือเก้าอี้ทำงานทั่วไป แต่ขอให้มีพนักพิง มีที่วางแขน และจะดีที่สุดหากเก้าอี้สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้


• เก้าอี้ต้องปรับให้ได้ระดับกับโต๊ะ คือสามารถนั่งทำงานได้โดยที่ฝ่าเท้าแตะพื้นพอดี และข้อศอกตั้งฉาก 90 องศา ขนานไปกับโต๊ะ


• หลังต้องชิดติดกับพนักพิง บริเวณก้นกบไม่ควรเหลือช่องว่าง อาจหาหมอนเล็ก ๆ ม้วนผ้าขนหนู หรือใช้หมอนรองหลัง จะช่วยให้นั่งหลังตรงได้อัตโนมัติ ช่วยรับน้ำหนัก ทำให้แผ่นหลังไม่เกร็งตึง และนั่งทำงานนาน ๆ ได้สบายขึ้น


• หรือถ้าอยากนั่งทำงานบนเตียง ควรมีโต๊ะวางโน้ตบุ๊ก นั่งหลังตรงพิงหัวเตียง แนะนำว่าให้มีหมอนรองหลัง หรือม้วนผ้าขนหนูรองไว้บริเวณก้นกบ


นอกจากปรับท่านั่งเพื่อป้องกันการปวดหลังแล้ว พื้นที่ทำงานควรมีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อลดความเสี่ยงจอประสาทตาเสื่อมจากการจ้องโน้ตบุ๊กนาน ๆ อากาศควรถ่ายเทสะดวก และอย่าลืมขยับท่าทางเปลี่ยนอิริยาบถ ลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสายอย่างน้อยทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง ให้เลือดได้ไหลเวียน และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ใครกลัวลืมก็ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ ฝึกทำให้ชินจนเป็นนิสัย จะได้ไม่ต้องทรมานกับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ในวันข้างหน้านะคะ