ถ้าเลือกได้ ใครๆ ก็คงอยากเป็นสาวหน้าใสผิวสวย แบบที่ตื่นมาก็สวยเลย โดยไม่ต้องพยายามอะไรทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริง เราก็รู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีอย่างที่ว่า เราคงต้องขอบคุณผู้คิดค้นเครื่องสำอางที่มาเป็นตัวช่วยให้เราได้มีหน้าตาสะสวย เลียนแบบความงามตามธรรมชาติได้อย่างแนบเนียน ชนิดที่เรียกว่า ถ้าไม่บอก ก็คงไม่มีใครรู้ว่าเราแต่งหน้า

การแต่งหน้าลุคธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า "No-Makeup Makeup Look" ซึ่งเป็นสไตล์การแต่งหน้าที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับคุณสาวๆ โดยที่ยังคงความเป็น "ตัวตน" ของคุณไว้อยู่ แต่การจะแต่งหน้าลุคธรรมชาติในแบบ "Less is More" ให้เป๊ะปังก็ต้องอาศัยเทคนิคและความเข้าใจ

1. ใช้ "ทินท์มอยส์เจอไรเซอร์" แทนรองพื้น

สำหรับลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ อยากแนะนำให้ลองใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีการผสมเม็ดสีลงไปเพื่อปรับให้สีผิวดูสม่ำเสมอและเรียบเนียนขึ้น พร้อมๆ กับบำรุงและมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า เรียกได้ว่าทั้งสวยทั้งมีประโยชน์ แถมยังประหยัดเวลาเพราะใช้แทนการลงรองพื้นไปได้เลย

2. ผิวเนียนสวยด้วย "Concealer"

อำพรางจุดบกพร่องต่างๆ ของผิวด้วยการใช้ "Concealer" ในจุดที่จำเป็นเท่านั้น อาทิ รอยแดงรอบๆ จมูก, รอยคล้ำใต้ตา หรือจุดด่างดำจากรอยสิว โดยวิธีที่ได้ผลคือการใช้พู่กันขนาดเล็กที่มีขนแปรงแบบสังเคราะห์ แต้มลงไปบนตำแหน่งที่ต้องการจะปกปิดและใช้นิ้วมือเกลี่ยให้เนื้อ Concealer ดูกลมกลืนกับผิวหน้าบริเวณรอบๆ ปิดท้ายด้วยการเซต Concealer ด้วยแป้งโปร่งแสงเพื่อความติดทนนานและป้องกันการไหลเยิ้มระหว่างวัน

3. ดวงตาเป็นประกายด้วยอายแชโดว์เนื้อเจล

เพื่อให้ดวงตาดูสดใสและเป็นประกายสดชื่น ลองใช้อายแชโดว์เนื้อเจลที่มีส่วนผสมของชิมเมอร์ หรือจะใช้อายแชโดว์แบบเนื้อครีมก็ได้ โดยเลือกใช้เฉดสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวของตัวเอง ให้มากที่สุด ดวงตาจะได้สวยวิบวับโดยที่ดูเหมือนไม่ได้แต่งหน้ายังไงล่ะ วิธีการใช้ก็ง่ายๆ เพียงใช้นิ้วมือเกลี่ยอายแชโดว์จากแนวขอบขนตาขึ้นไปหาบริเวณใต้คิ้ว โดยให้น้ำหนักเข้มอยู่ชิดขอบขนตาและค่อยๆ ฟุ้งขึ้นทางด้านบน อีกหนึ่งเทคนิคที่อยากนำมาฝากกัน คือการใช้อายแชโดว์ที่มีสีอ่อนกว่าสีแรกแต้มบริเวณหัวตาทั้งสองข้าง แค่นี้ดวงตาคู่สวยของคุณก็จะดูโดดเด่นและมีมิติยิ่งขึ้น

4. สวยคมด้วยการจัดแต่งขนตาและขนคิ้ว

สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการแต่งหน้าคือการจัดแต่งทรงคิ้วให้ได้รูปสวย รวมถึงการดัดขนตาและปัดมาสคาร่าเพื่อช่วยให้ดวงตาดูดำขลับและกลมโตยิ่งขึ้น สำหรับ "Natural Look" ที่ดูเหมือนไม่แต่งหน้า แนะนำให้ปัดขนคิ้วด้วยผลิตภัณฑ์จัดแต่งคิ้วแบบเจลโดยการปัดให้ขนคิ้วชี้ตั้งขึ้นด้านบน ตามเทรนด์ที่ฮอตฮิตมาพักใหญ่ๆ และดูว่าคงจะไม่ลดความนิยมลงง่ายๆ (“ทรงคิ้ว” สุดปัง สำหรับสาวแต่ละรูปหน้า) ในส่วนของขนตา ควรเริ่มจากการดัดขนตาให้งอนเด้ง เพื่อเบิกเนตรและเหมือนเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ชัดขึ้น พูดง่ายๆ คือทำให้ตาดูโตขึ้นนั่นแหละ แล้วจึงค่อยปัดมาสคาร่าเฉพาะขนตาบนก็พอ ไม่ต้องปัดขนตาล่าง เพราะเดี๋ยวจะดูเยอะเกินไปและไม่เป็นธรรมชาติ

5. เปล่งปลั่งมีเลือดฝาดด้วยครีมบลัช

สาวๆ ที่เคยใช้แต่บลัชออนแบบพาวเดอร์ ทำไมไม่ลองเปลี่ยนมาใช้ "ครีมบลัช" หรือบลัชออนเนื้อครีมกันดูล่ะ เพราะเค้าให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากๆ พวงแก้มจะดูสวยสุขภาพดีและเป็นประกายเหมือนผิวที่มีเลือดฝาดจริงๆ เพียงใช้นิ้วเกลี่ยเนื้อผลิตภัณฑ์บางๆ บนผิวหน้าโดยนึกภาพเวลาที่คุณออกกำลังกายเหนื่อยๆ แล้วแก้มแดงในตำแหน่งไหน คุณก็บรรจงเกลี่ยตามรอยนั้นได้เลย ฝากไว้นิดนึงว่า เวลาเกลี่ยให้เกลี่ยจากช่วงกลางใบหน้าออกไปหาไรผมด้านข้าง เพื่อไม่ให้สีของบลัชออนมากองเป็นก้อนอยู่ตรงกลางใบหน้า

6. ผิวสวยฉ่ำน้ำด้วย Illuminator

เสน่ห์ของการแต่งหน้าแบบธรรมชาติคือ "งานผิว" ที่ดูโกลว์เปล่งประกายฉ่ำน้ำ ซึ่งเราสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยการใช้ Illuminator เนื้อลิควิดหรือเนื้อครีม เพราะเค้าให้ความเงาวาวที่ดูกลมกลืนและซึมเข้ากับผิวหน้าได้มากกว่าผลิตภัณฑ์แบบพาวเดอร์ โดยตำแหน่งที่ควรแต้มความวิบวับให้กับผิว ได้แก่ โหนกแก้ม, สันจมูก, ใต้คิ้วช่วงที่โก่ง และผิวบริเวณเหนือริมฝีปากบน

7. แต่งแต้มสีสันบนเรียวปากด้วยทินท์ลิปบาล์ม

ขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้ลุคนี้สมบูรณ์แบบคือการทาริมฝีปากด้วยลิปบาล์มแบบมีสี เพราะนอกจากจะช่วยบำรุงแล้วยังเพิ่มสีสันที่ดูเป็นธรรมชาติเหมือนริมฝีปากของคุณสาวๆ มีสีสวยแบบนั้นเลยตั้งแต่ตอนตื่นนอน!