โลมาเป็นสัตว์ที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่พวกมันยังมีอะไรให้ต้องศึกษาอีกมากมาย ทีมนักวิจัยได้พยายามศึกษาพวกมันมานานหลายปี แต่สิ่งหนึ่งที่รู้กันก็คือ แม้ว่าโลมาจะเป็นสัตว์ที่ฉลาด ดูเป็นมิตรกับคนมาก


แต่ก็ยังมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เรายังไม่เคยรู้เกี่ยวกับเจ้าโลมา


1. โลมาดูยิ้มแย้มเพราะพวกมันมีความสุข


ความเข้าใจผิดส่วนใหญ่เกี่ยวกับโลมาจมูกขวดที่เราเห็นกันบ่อยๆ ในโชว์ก็คือ พวกมันดูเหมือนจะ “ยิ้ม” ได้ แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรมากไปกว่าสรีระของขากรรไกรโลมาที่สร้างภาพลวงตาให้เราเห็นว่าพวกมันกำลังยิ้มอยู่ ในความเป็นจริงโลมาไม่ได้ชอบสร้างความบันเทิงให้กับผู้คน ใบหน้าของพวกมันดูยิ้มแย้มตลอดเวลาไม่ว่าจะมีความสุขหรือมีความทุกข์



2. โลมาเป็นมิตรและพวกมันกระพริบตาเพราะกำลังมีความสุข


มีสารเคมีหลายชนิดที่แตกต่างกันถูกใช้ฆ่าเชื้อโรคในสระน้ำ และส่วนใหญ่ก็คือคลอรีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำปฏิกิริยากับอุจจาระของสัตว์ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพิษ ซึ่งนำไปสู่โรคภัยต่างๆ จนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของพวกมันอ่อนแอลง



หากความเข้มข้นของคลอรีนในน้ำสูงเกินไป ก็สามารถทำให้ดวงตาของโลมาแสบไหม้ และอาจรุนแรงไปจนทำให้พวกมันตาบอด นี่คือสาเหตุที่โลมามักจะปิดตาว่ายน้ำอยู่เสมอ มันดูเหมือนว่าพวกมันกระพริบตาปริบๆ และดูมีความสุข แต่ในทางกลับกันถ้าเกิดจำนวนสารเคมีที่กำจัดแบคทีเรียในน้ำมีน้อยเกินไป ก็อาจส่งผลให้โลมาเหล่านี้เป็นแผลที่ผิวหนังได้


3. โลมารักสงบและไม่ก้าวร้าว


หลายคนอาจรู้มาว่า โลมาจะใช้คลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงในการค้นหาเส้นทางและเหยื่อ แต่การที่โลมาอาศัยอยู่ในสระน้ำเล็กๆ การปล่อยคลื่นเสียงจะมีผลอย่างรุนแรงต่อสภาพจิตใจของโลมา โดยเฉพาะถ้ามีการเปิดดนตรีเสียงดัง มีเสียงผู้ชมตะโกน โห่ร้อง มีเสียงปรบมือ และอย่างที่ทราบกันดีว่าการถูกคุมขังก็เป็นส่วนที่ทำให้สัตว์เครียดอยู่แล้ว



โลมาเป็นสัตว์ป่าและพฤติกรรมของพวกมันก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ไม่ใช่แค่ผู้ฝึกสอนเท่านั้นที่เสี่ยงอันตราย แต่รวมไปถึงผู้ชมอีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่มีโชว์โลมาจำนวนมากใช้การวางยาเพื่อให้โลมาเหล่านี้สงบ



4. โลมาเป็นสัตว์ที่ฉลาด มันจึงถูกฝึกให้แสดงโชว์ได้ง่าย


การผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มาอย่างยาวนานได้พิสูจน์แล้วว่า สมองของโลมามีความซับซ้อนมาก พวกมันรู้จักตัวเองและมีความสามารถทางปัญญาที่น่าทึ่ง ความเชื่อที่ว่าโลมาเป็นสัตว์ฉลาดจึงเป็นความเชื่อที่ไม่ผิดแต่อย่างใด



แต่ความฉลาดของโลมาไม่ได้เป็นส่วนที่ทำให้พวกมันสามารถแสดงโชว์ในแบบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย จริงๆ แล้วพวกมันก็แค่ถูกจูงใจด้วย “อาหาร” แค่นั้น ตามปกติแล้วโลมาจะถูกแบ่งมื้ออาหารออกเป็นหลายมื้อหลายส่วน ขึ้นอยู่กับจำนวนช่วงเวลาซ้อมและเวลาโชว์ ซึ่งพวกมันจะรู้ว่าถ้าไม่ทำตามคำสั่งก็จะต้องหิว


5.โลมามีความสุขมากกว่าเมื่ออยู่ในอะควาเรียม


หัวหน้าทีมวิจัย “ดร. อิซาเบลลา เคล็ก” กล่าวว่า งานวิจัยชิ้นนี้ นับเป็นงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ชิ้นแรกของโลก ที่พยายามจะวัดความรู้สึกของสัตว์ที่ถูกจับ มาขังอยู่ในสวนสัตว์ โดย ดร.เคล็ก และทีมวิจัย ได้ทำการติดตามและศึกษาพฤติกรรรมของโลมา ในสวนสัตว์น้ำ “ปาร์ค แอสแตร์ริซ” ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงปารีส ซึ่งเป็นสวนสัตว์น้ำที่มี “ตู้ปลาโลมา” ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส



เป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ด้วยการสังเกตท่าทางภายนอกของพวกมัน และประเมินถึงกิจกรรมที่โลมาต้องการมากที่สุด ผ่าน 3 กิจกรรม ได้แก่ ตอนอยู่กับผู้ฝึก ตอนที่พวกมันเล่นกับของเล่นในสระ และตอนที่พวกมันอยู่ลำพัง



ทั้งนี้ ผลการศึกษาออกมาว่า สิ่งที่โลมาชอบมากที่สุด คือ การมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ที่สนิท อย่างที่ดร.เคล็ก กล่าวว่า "โลมาทุกตัว ต่างรอคอย และมุ่งหวังที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ที่พวกมันคุ้นเคย" มากกว่านั้น “ยิ่งพวกโลมามีปฎิสัมพันธ์กับมนุษย์มากเท่าไหร่ พวกมันก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น” โดยพวกมันจะแสดงออกอย่างชัดเจน ด้วยการโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ และจะมองไปยังทิศทางที่ผู้ฝึกสอนมักจะปรากฏตัว


6.โลมา ‘หลับ’ กันยังไง


เมื่อโลมาหลับ สมองบางส่วนเท่านั้นที่จะปิดลงพร้อมๆ กับตาฝั่งตรงข้าม ส่วนสมองข้างที่เหลือจะเป็นตัวประเมินบริเวณรอบๆเผื่อมีอันตรายรวมถึงควบคุมระบบหายใจ พวกมันจะหลับเพียง 4 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น


คำถามแรกโลมานอนเหมือนกันแต่ว่ามันไม่ได้นอนติดต่อกันเป็นเวลานานเหมือนกับตัวอื่น โลมาจะนอนเป็นช่วงสั้น ๆ เท่านั้นเอง ท่านอนของโลมาก็แปลกนะมันจะนอนด้วยการคู้ตัวเอาศีรษะและหางจมน้ำไว้ แล้วปล่อยตัวลอยไปตามน้ำ หรือ บางตัวจะใช้การกบดานใต้น้ำเพื่อพักผ่อนก็มี



7.ภาษาโลมา


โลมามีสำเนียงภาษาประมาณ 15 ล้านคำ เป็นสัตว์ที่มีสัดส่วนของสมองมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ เวลาที่โลมา ส่งเสียงออกมาเสมือนมีคลื่นพิเศษ เรียกว่าคลื่น Ultrasonic ซึ่งคลื่นชนิดนี้ใช้ในการสื่อสารกันเองในฝูงโลมาด้วยกัน เช่น เมื่อเวลาพลัดหลงจากฝูง การส่งเสียงขอความช่วยเหลือเวลามีอันตราย ทั้งฝูงจะรวมตัวกันเข้าช่วยโดยทันที