กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักสามารถเลี้ยงไว้ดูเล่นไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา เนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายและโตเร็ว แถมยังแพร่พันธุ์ได้ไม่ยาก กระต่ายนอกจากเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักแล้วยังเชื่อว่ากระต่ายเป็นสัตว์นำโชคอีกด้วย

กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องการการเอาใจใส่ดูแลอย่างดี และควรเลี้ยงกระต่ายที่ถูกวิธีเท่านั้น เพราะจะทำให้กระต่ายมีความสุขและอายุยืนยาว ผู้เลี้ยงกระต่ายควรมีความรับผิดชอบซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากทำให้มันต้องตายไปก่อนวัยอันควรหรือถ้าเบื่อแล้วไม่สนใจปล่อยทิ้งขว้างไม่ดูแล คงไม่ใช่เป็นการเลี้ยงเพื่อการเสริมดวง แต่จะกลายเป็นการเลี้ยงเพื่อการสร้างบาปแทน

วิธีเลี้ยงกระต่ายไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าชอบสายพันธุ์อะไรก็ลองหาข้อมูลแล้วมาเลี้ยงดูค่ะ การเลี้ยงกระต่ายซึ่งจัดได้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมก็ว่าได้ กระต่ายเป็นสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม มีอายุประมาณ 5-10 ปี แพร่พันธุ์ได้ง่ายและรวดเร็ว ออกลูกครั้งละประมาณ 6-10 ตัว ดังนั้นถ้าไม่ต้องการเลี้ยงมากหรือเลี้ยงเพื่อการค้าควรต้องทำหมันให้กระต่าย

กระต่ายมีนิสัยสุภาพ ชอบอยู่เงียบๆและอยู่กันเป็นฝูง อาหารกระต่ายส่วนใหญ่เป็นอาหารสดหรือหญ้า อาหารเม็ดก็สามารถให้กระต่ายกินได้เช่นกัน แต่ควรให้หญ้าแห้งหรือสดเป็นอาหารหลัก เสริมผักผลไม้อีกเล็กน้อย เนื่องจากการให้หญ้าสดจะมีประโยชน์กับกระต่ายเป็นอย่างมากเพราะจะช่วยในเรื่องย่อยและการขับถ่าย ช่วยแก้ปัญหาต่างๆในเรื่องฟันของกระต่ายได้เป็นอย่างดี

กระต่ายมีโรคประจำตัวในเรื่องของโรคไข้หวัดและปอดบวม โรคผิวหนัง ความอับชื้นและเชื้อรา ส่วนใหญ่จะเกิดในฤดูหนาว ดังนั้นจึงต้องระวังในการเลี้ยงให้ดีเมื่อถึงเวลาอากาศหนาวเย็น ความเชื่อที่ว่ากระต่ายเป็นสัตว์ขี้ตกใจและอาจตายเพราะความตกใจได้นั้น เรื่องนี้อาจไม่จริงเสมอไป อาจมีคำกล่าวว่า “กระต่ายตื่นตูม” ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องเชื่อกันมาแต่เก่าก่อนมากกว่า เรื่องนี้เป็นเฉพาะบางตัวเท่านั้น ซึ่งบางตัวก็ไม่เป็น มีคนบอกว่าการที่จะจับกระต่ายต้องหิ้วที่หู ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจที่ผิด เป็นเรื่องไม่จริงเพราะบริเวณหูของกระต่ายมีเส้นเลือดฝอยอยู่มากอาจทำให้หูอักเสบได้

การจับหรืออุ้มที่ถูกวิธีต้องจับหนังบริเวณท้ายทอยและอุ้มช้อนขึ้นทั้งตัว การที่มีคนเข้าใจว่าต้องหิ้วที่หูอาจเห็นว่าจับได้ถนัดมือเนื่องจากหูกระต่ายเป็นจุดเด่นและเห็นได้ชัดเจน เลยฉวยโอกาสง่ายๆหิ้วที่หูเสียเลย ซึ่งอาจทำให้กระต่ายบาดเจ็บได้

สถานที่เลี้ยงหรือกรงกระต่ายต้องไม่มีอากาศที่ร้อนจัด พื้นกรงต้องไม่ชื้นแฉะ มีกระแสลมพัดผ่านไม่รุนแรงมากเกินไป ต้องมีการถ่ายเทอากาศได้อย่างดี กรงต้องสะอาด การให้อาหาร เปลี่ยนน้ำต้องสะอาดอยู่เสมอ สิ่งสำคัญกรงต้องมีความกว้างพอสมควร และควรต้องปล่อยให้กระต่ายได้วิ่งเล่นออกกำลังกายบ้างเป็นครั้งคราว จะทำให้กระต่ายมีอารมณ์เบิกบานแจ่มใสและไม่เหงาจนเกินไป

หากจะเลี้ยงกระต่ายผู้เลี้ยงควรจะต้องคอยสังเกตอาการของกระต่ายอยู่เป็นประจำด้วยว่ามีอาการป่วยเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น ไม่ดื่มน้ำ ไม่กินอาหาร ขนร่วง ซึม เป็นแผล มีขี้มูกขี้ตา บางตัวอาจเป็นไรในหู คือจะมีขี้หูรวมตัวเป็นแผ่นหนา ซึ่งกระต่ายจะคันมาก

ในกรณีที่กระต่ายเป็นตาฝ้า ลูกตามีหนองอยู่ข้างในหรือมีน้ำตาไหล อาจเกิดจากเยื่อบุตาอักเสบ ขนทิ่มตา ท่อน้ำตาตัน ซึ่งอาการเหล่านี้บ่งบอกว่าต้องมีเหตุผิดปกติเกิดขึ้นกับกระต่ายของท่าน ไม่ควรปล่อยไว้ควรพามาพบสัตว์แพทย์ตรวจหาสาเหตุความผิดปกติเหล่านั้นโดยด่วน เพื่อรับการรักษาได้อย่างทันการณ์