นกฮัมมิงเบิร์ด มีถิ่นอาศัยเฉพาะในทวีปอเมริกา มีจำนวนมากและหลายชนิดพันธุ์ในบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรและร้อยละ 95 ในโลกมีกำเนิดอยู่ทางใต้ของชายแดนสหรัฐฯและเม็กซิโก โดยมีเพียง 16 ชนิดพันธุ์จาก 330 ชนิดพันธุ์ที่อาศัยอยู่เหนือเม็กซิโกขึ้นไป
นกฮัมมิ่งเบิร์ด (hummingbird) เป็นนกเพียงชนิดเดียวที่สามารถบินนิ่งๆอยู่กลางอากาศได้ การบินนิ่งๆต้องใช้พลังงานสูงกว่าการบินโฉบไปมามาก นกฮัมมิงเบิร์ดจึงมีอัตราการเมตาบอลิซึมสูงสุดในหมู่สัตว์ด้วยกัน
ด้วยเหตุนี้นกฮัมมิงเบิร์ดจึงมักดูดน้ำหวานจากดอกไม้ที่อุดมไปด้วยน้ำตาลและมีแคลลอรี่สูงเป็นประจำ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้เพียงพอกับที่ร่างกายใช้ไประหว่างที่ดูดน้ำหวานจากดอกไม้ก็เป็นการช่วยผสมเกสรไปด้วย พืชบางชนิดจึงมีวิวัฒนาการร่วม (co-evolution) ไปกับนกฮัมมิ่งเบิร์ดด้วย กล่าวคือนกฮัมมิ่งเบิร์ดมีส่วนในการคัดเลือกลักษณะบางอย่างของพืชที่มันไปดูดน้ำหวาน
นกฮัมมิงเบิร์ด เป็นนกที่มีขนาดตัวเท่านิ้วหัวแม่มือ มีน้ำหนัก 5-6 กรัม เทคนิคในการบินของมันใกล้เคียงกับผึ้งมากกว่านกชนิดอื่นๆ หัวไหล่ที่มีลักษณะเป็นข้อต่อทรงกลมทำให้มันสามารถหมุนปีกได้ 180 องศาในทุกทิศทาง ในขณะที่มันลอยอยู่กลางอากาศส่วนปลายของปีกจะเคลื่อนที่ในแนวระนาบ ทำให้เกิดการกระพือปีกขึ้นๆลงๆ ขนหางคล้ายใบพายสามารถบังคับทิศทางได้ทั้งซ้ายขวาและขึ้นลง นั่นหมายความว่ามันสามารถบินไปข้างหน้า บินถอยหลังหรือบินกลับหัวก็ยังได้
ฮัมมิงเบิร์ด ใช้เวลาร้อยละ 75 ของวันไปกับการเกาะอยู่บนกิ่งไม้ในตอนกลางคืน บางชนิดจะเข้าสู่ภาวะประหยัดพลังงานเหมือนการจำศีลชั่วคราว ในภาวะดังกล่าว การเผาผลาญพลังงานในร่างกายจะลดลงอย่างฮวบฮาบและอุณหภูมิของร่างกายจะลดลงเกือบครึ่งหนึ่งด้วย นกตัวจิ๋วอย่างฮัมมิงเบิร์ดสามารถปรับตัวได้อย่างน่าทึ่ง ธรรมชาติช่างออกแบบมาให้มันมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์จริงๆ
การบินของฮัมมิงเบิร์ดเปรียบเหมือนวิศวกรรมการบินระดับจุลภาคที่สร้างสรรค์จากธรรมชาติ เพราะนอกจากจะกระพือปีกได้เร็วแล้ว ปีกของมันยังสามารถบิดควงหมุนได้รอบทิศเหมือนควบคุมด้วยไดนาโมจิ๋ว จะบังคับทิศทางการบินไปทางใดก็ได้ดังใจนึก นกจะขับเคลื่อนกล้ามเนื้อปีกลักษณะคล้ายแมลงมากกว่านก จึงมีพลังมหาศาลกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นเมื่อเปรียบเทียบมวลน้ำหนัก และทางเดินประสาทที่เดินทางได้เร็วทำให้เป็นนกที่คล่องแคล่วที่สุด
ความสามารถเฉพาะตัวของมันในการดูดกินน้ำหวานจากดอกไม้ในขณะที่ลอยตัวอยู่ในอากาศยังต้องอาศัยการปรับตัวของสมองเป็นพิเศษด้วย มันสามารถมองเห็นช่วงแสงของรังสีอัลตราไวโอเลตได้ดียิ่งกว่านกชนิดอื่นๆ (บางทีอาจช่วยในเรื่องการจดจำดอกไม้) และสมองที่รับผิดชอบในเรื่องการปรับภาพให้คมชัดของมันยังมีขนาดใหญ่ด้วย แม้จะมีกระแสลมที่เกิดจากการกระพือปีกถึง 200 ครั้ง ต่อวินาทีก็ตาม
ส่วนหนึ่งของอวัยวะสำคัญที่ฮัมมิงเบิร์ดต้องแบกไว้ก็คือสมอง เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดตัวแล้ว สมองของมันมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์เราถึง 2 เท่า และอวัยวะนี้เองที่ช่วยให้มันทำหลายสิ่งหลายอย่างที่สัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าทำไม่ได้มันไม่ได้เป็นแค่นกตัวเล็กที่กินน้ำหวานเป็นอาหารเท่านั้น แต่มันยังมีความฉลาดมากอีกด้วย ฮัมมิ่งเบิร์ดมีสัมผัสเรื่องเวลาที่แม่นยำเหนือมนุษย์เรา