กล้วยไม่เพียงแต่อร่อยเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ผลไม้สารพัดประโยชน์เหล่านี้สามารถรับประทานเป็นของว่างหรือนำไปใช้ในสูตรอาหารแสนอร่อยได้หลากหลาย


กล้วยมีถิ่นกำเนิดในอินเดียและเจริญเติบโตได้ในพื้นที่เขตร้อนซึ่งมีอุณหภูมิและความชื้นสูง พบได้ทั่วเอเชีย แอฟริกา อเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดยมีศูนย์กลางการผลิตหลักในประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย ฟิลิปปินส์ เอกวาดอร์ และคอสตาริกา กล้วยมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วภูมิภาคเขตร้อนทั่วโลก


กล้วยนั้นอัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นหลากหลายชนิด เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม เหล็ก วิตามินบี 6 วิตามินซี เซลลูโลส ไนอาซิน และกรดโฟลิก สารอาหารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสุขภาพโดยรวมและพัฒนาการ


ในบรรดาสารอาหารทั้งหมดที่มีอยู่ในกล้วย โพแทสเซียมมีความสำคัญที่สุด โดยกล้วยมีโพแทสเซียมประมาณ 358 มก. ต่อ 100 กรัม ช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจ ความดันโลหิต และส่งเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทอย่างเหมาะสม นอกจากนี้โพแทสเซียมยังมีความสำคัญต่อการรักษาระดับของเหลวในร่างกายและสุขภาพของหัวใจให้เหมาะสม


นอกจากประโยชน์ทางโภชนาการแล้ว กล้วยยังได้รับการขนานนามว่าเป็น "ผลไม้แห่งความสุข" ที่มีสารอัลคาลอยด์ที่ช่วยให้มีสมาธิและผ่อนคลาย


ดังนั้น หากคุณรู้สึกแย่ การกินกล้วยอาจช่วยทำให้จิตใจคุณดีขึ้นและทำให้อารมณ์ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้กล้วยจึงถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าในการรักษาโรคซึมเศร้า


กล้วยยังเป็นแหล่งทริปโตเฟนและวิตามินบี 6 ชั้นยอด ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตเซโรโทนินในสมอง สารสื่อประสาทนี้ส่งเสริมความรู้สึกมีความสุขและช่วยลดภาวะซึมเศร้าและความหงุดหงิด


แม้จะมีความหวานตามธรรมชาติ แต่กล้วยก็ไม่ได้มีส่วนทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากนัก หลายๆ คนไม่มั่นใจที่จะรวมกล้วยไว้ในสูตรการลดน้ำหนักเนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลสูง


อย่างไรก็ตาม กล้วยมีแคลอรี่ค่อนข้างต่ำ กล้วยทั่วไปที่มีน้ำหนักประมาณ 100 กรัมจะมีแคลอรี่เพียง 87 แคลอรี่ ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของแคลอรี่ของข้าว 150 กรัม


นอกจากนี้ เพกตินที่พบในกล้วยยังมีคุณสมบัติโดดเด่นในการยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกอิ่ม ทำให้กล้วยสามารถทดแทนอาหารหลักได้อย่างเหมาะสม และลดปริมาณแคลอรี่โดยรวม


ในเรื่องการเก็บรักษา กล้วยไม่ควรแช่เย็น ต่างจากผลไม้อื่นๆ การแช่เย็นจะช่วยเร่งกระบวนการสุก และอาจทำให้กล้วยเน่าและเปลี่ยนเป็นสีดำได้ ตามหลักการแล้ว ควรเก็บกล้วยไว้ที่อุณหภูมิระหว่าง 11 ถึง 13 องศาเซลเซียส


กล้วยให้ประโยชน์มากกว่าคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากกล้วยยังช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้อีกด้วย สาเหตุหลักมาจากปริมาณโพแทสเซียมสูง การบริโภคเกลือมากเกินไปอาจนำไปสู่การกักเก็บน้ำในเซลล์ ส่งผลให้ตาแดงและบวม


โพแทสเซียมช่วยในการกำจัดเกลือส่วนเกิน รักษาสมดุลระหว่างโพแทสเซียมและโซเดียมในร่างกาย และบรรเทาอาการไม่สบายตา


นอกจากนี้กล้วยยังเป็นแหล่งแคโรทีนที่อุดมไปด้วย การได้รับสารนี้ไม่เพียงพออาจทำให้เกิดอาการปวดตา ตาแห้ง ความหมองคล้ำ และภาวะขาดน้ำได้ การบริโภคกล้วยสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ ลดความเมื่อยล้าของดวงตา และแม้กระทั่งชะลอกระบวนการชราได้


กล้วยไม่เพียงแต่เป็นผลไม้ที่น่ารับประทานเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งโภชนาการอีกด้วย ความอุดมสมบูรณ์ของสารอาหารที่จำเป็น คุณสมบัติในการกระตุ้นอารมณ์ ประโยชน์ในการควบคุมน้ำหนัก และข้อดีด้านสุขภาพดวงตา ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนเสริมที่ดีเยี่ยมในการรับประทานอาหารทุกประเภท ดังนั้นมาเพลิดเพลินกับความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการของกล้วยกันเถอะ!