ในวันที่อากาศแปรปรวน ชวนให้หัวใจเราปรวนแปร เหงาบ้าง เศร้าบ้าง มีความสุขบ้าง ก็ว่ากันไปตามอารมณ์ แต่...แต่...แต่...ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะมานั่งเหงาหรือนั่งหงอยกันนะคะ เราขอแนะนำให้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้เราพบกับความสุขอย่างแท้จริง นั่นคือ "เกาะกูด" เกาะที่ได้รับการขนานนามว่า "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" เพราะมีน้ำทะเลสีใสมรกตนั่นเอง
"เกาะกูด" เป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางทิศตะวันออกของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลตราดและมีความใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้างในจังหวัดตราดและเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ระยะทางห่างจากตัวเมืองตราด 80 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 65,625 ไร่ โดยมีขนาดความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตรและขนาดความกว้าง 12 กิโลเมตร
ลักษณะโดยทั่วไปของเกาะยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ โดยมีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิด ลำธาร สายน้ำ ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกหลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อบนเกาะกูดคือน้ำตกคลองเจ้าจะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นบนจะมีลักษณะเป็นลำธาร ส่วนชั้นล่างเป็นลำธารจากน้ำตกขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะแก่การเล่นน้ำอย่างมาก
น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ คือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 ทรงพระราชทานนามว่า "น้ำตกอนัมก๊ก" เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจราจลในสมัยรัชกาลที่ 1
ทั้งนี้ทางฝั่งตะวันตกของเกาะตั้งแต่อ่าวตาติ้น หาดคลองยายกี๋ แหลมหินดำ หาดคลองเจ้า หาดง่ามโข่ แหลมบางเบ้า หาดอ่าวพร้าวไปจนสุดปลายแหลมเทียน และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันออกที่น่าสนใจ ได้แก่ อ่าวสับปะรด แหลมศาลา อ่าวยายเกิด อ่าวคลองหิน อ่าวจาก ล้วนแต่เป็นหาดที่มีหาดทรายสวยงามและน้ำทะเลใส มีธรรมชาติสงบเงียบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบท่องเที่ยวและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
ปัจจุบันชาวเกาะยังดำรงชีพด้วยเกษตรกรรม ทั้งทำสวนยางพารา สวนมะพร้าว สวนผลไม้เพียงเล็กน้อยและทำประมงชายฝั่ง
ในแต่ละหาดจะมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยว ในแบบบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวอีกด้วย นอกจากนี้บนเกาะกูดยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์ แนวปะการังนานาชนิดและปลาทะเลสีสันสวยงาม ในบริเวณทะเลด้านในของตัวเกาะ รวมทั้งเกาะแรดและเกาะไม้ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเกาะกูด เหมาะสำหรับการมาฮีลจิตใจได้อย่างดีเลยค่ะ