หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ความงามประดุจภาพวาด หรือ ภาพบรรยายของเหล่านักเขียนนวนิยายจีนกำลังภายใน ก็คืออุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติจางเย่ อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาฉีเลียง เมืองจางเย่ มณฑลกานซู่ ประเทศจีน อุทยานธรณีแห่งนี้มีพื้นที่มากถึง 322 ตารางกิโลเมตร กินพื้นที่เขตปกครองตนเองชนชาติยู่กู้และซู่หนาน

อุทยานธรณีแห่งชาติจางเย่ (Zhangye National Geopark) มันอาจจะฟังดูน่าเบื่อเพราะพื้นที่กว้างใหญ่แห่งนี้มีแต่หิน แต่เป็นหินหลากสี งดงามตื่นตาและได้รับการยกย่องว่าเป็น "ภูเขาสายรุ้งแห่งแดนเหนือ" หนึ่งในธรรมชาติที่งดงามที่สุดแห่งจีนแผ่นดินใหญ่

ความอัศจรรย์นี้รังสรรค์โดยธรรมชาติ เป็นผลมาจากการขยับตัวของเปลือกโลกเมื่อ 24 ล้านปีก่อน บวกกับอิทธิผลของสภาพอากาศ ลม ฝน และเวลาก่อให้เกิดการสะสมตัวของหินทรายและแร่ธาตุอื่นๆจนเป็นหุบเขาหินที่มีลักษณะเป็นชั้นสีคล้ายเลเยอร์เค้ก นอกจากนี้ยังมีรูปทรง ขนาด รูปแบบและสีสันที่แตกต่างกันออกไป

จุดเด่นทางภูมิประเทศคือ สภาพแวดล้อมที่เป็นแนวเขาสีน้ำตาลที่เกิดขึ้นจากหินทรายอัดแน่นไปด้วยแร่ธาตุชนิดต่างๆ ซึ่งแร่ธาตุนี่แหละทำให้แนวภูเขาที่สลับซับซ้อนไปมานั้น พอแนวเทือกเขาเหล่านั้นโดยแสงแดดตกกระทบทำให้กลายเป็นทะเลภูเขาหลากหลายสีสันทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา บางคนก็บอกว่ามันเหมือนกับชั้นของเค้กชั้นดี ภาพอันน่ามหัศจรรย์ที่บอกเลยว่ามันจะกลายเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญของเราไปตลอดกาล

ความงดงามที่เหนือจินตนาการจากฝีมือของธรรมชาติ ทำให้อุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติจางเย่ ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกอย่างไร้ข้อกังขาเมื่อปี 2010 เมื่อถูกขึ้นทะเบียนทำให้ทางการท่องเที่ยวจีนมีการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวดังกล่าวให้มีการบริหารจัดการดียิ่งขึ้น เมื่อเราไปเที่ยวอุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติจางเย่ เราจะสามารถเดินชมความงามจากเส้นทางที่ทางการจัดไว้ พร้อมทั้งได้เซลฟี่กับภาพจากจุดที่เค้ากำหนดไว้รับรองว่าสวยแน่นอน

วิธีการเดินทางไปเที่ยวอุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติจางเย่ ต้องบอกว่าหากไม่ได้ไปกับทัวร์ การเดินทางไม่ง่ายเท่าไรเนื่องจากสถานที่อยู่ค่อนข้างไกลไปทางเหนือของประเทศ วิธีการเดินทางต้องลงเครื่องบิน เดินทางไปถึงเมืองจางเย่ จากนั้นก็เดินทางด้วยรถแท็กซี่หรือเช่ารถขับต่อไปอีกประมาณ 40 กิโลเมตรก็จะถึง อาจจะไปยากสักหน่อยแต่ใครชอบท่องเที่ยวสายผจญภัยสายธรรมชาติต้องไปให้ได้สักครั้ง

ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่อ ภายในอุทยานมีทางเดินสำหรับชมวิว รวมทั้งมีทางลาดที่สามารถนำรถเข็นขึ้นไปได้ ดังนั้นครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือผู้พิการก็เที่ยวได้ อุทยานจะเปิดตั้งแต่ 06.00 -20.00 น. เวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการไปชมคือตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตอนพระอาทิตย์ตกดิน เพราะจะเห็นความตื่นตา เมื่อยามแสงแรกแห่งอรุณรุ่งกระทบกับสีสันของชั้นหินและเมื่อยามแสงสุดท้ายลาลับไป