แล้วกลับด้านด้วยการวางจานประกบกับกระทะแล้วคว่ำลงให้แพนเค้กลงมาอยู่ในจาน จากนั้นใช้ไม้พายดันแพนเค้กกลับลงไปในกระทะ ปิดฝาต่อไปอีก 2-3 นาที ยกลง


เสิร์ฟโดยวางเนยก้อนเล็กบนแพนเค้กร้อนๆ ราดด้วยน้ำเชื่อมเมเปิล คุณยังสามารถใส่อาหารอื่น ๆ ที่คุณชอบกินได้ มะเขือเทศเชอรี่มีถิ่นกำเนิดในเปรู เอกวาดอร์ โบลิเวีย และที่อื่นๆ ในอเมริกาใต้ ชอบความอบอุ่นและทนต่อความร้อน อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตคือ 20-30 องศาเซลเซียส ไฮไฟ แสงที่เพียงพอ เอื้อต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ


มะเขือเทศเชอรี่ชอบดินร่วนปนทรายที่อุดมสมบูรณ์ ผลไม้สามารถใช้เป็นยาได้ สามารถบรรเทาอาการกระหายน้ำ เบื่ออาหาร ท้องผูก ลดความดันโลหิต และเพิ่มความสามารถในการต้านมะเร็งของร่างกาย มะเขือเทศเชอร์รี่อุดมไปด้วยโปรตีน โพแทสเซียม แคลเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ และธาตุซีลีเนียมและเบต้าแคโรทีน วิตามินรวม กรดซิตริก กรดมาลิก มะเขือเทศเชอรี่อุดมไปด้วยวิตามินซีและมีปริมาณมากกว่าแตงโม 10 เท่า


มะเขือเทศเชอรี่มะเขือเทศเชอรี่หวานเป็นมะเขือเทศสำหรับรับประทานสด ผลมีขนาดเล็กพอดีคำ มีรสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย เนื้อเนียนฉ่ำ รส


มะเขือเทศเชอรี่ต้องการสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม อุณหภูมิมีอิทธิพลต่อการติดและการพัฒนาของผล อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตอยู่ระหว่าง 15 – 25 องศาเซลเซียส มะเขือเทศสามารถเจริญได้ดีในดินที่ร่วนซุย มีหน้าดินลึก ระบายน้ำได้ดี มีอินทรีย์วัตถุสูง pH 6.0 – 6.8 ข้อสำคัญพื้นที่ปลูกไม่ควรปลูกซ้ำกับพืชชนิดอื่นในตระกูลเดียวกัน เพราะเป็นแหล่งสะสมโรคแมลง


วิธีการปลูกมะเขือเทศ เริ่มจากเตรียมกระถาง กระบะ หรือภาชนะที่มีความลึกอย่างน้อย 30 เซนติเมตร ผสมดินสำหรับปลูก โดยใช้ดิน 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก/ปุ๋ยคอก 1 ส่วน และแกลบดำ 1 ส่วน ผสมส่วนผสมทั้งหมดลงดิน แล้วใส่ลงในกระถาง เพาะเมล็ดมะเขือเทศด้วยวัสดุเพาะ เช่นพีทมอส หรือวัสดุที่เหมาะต่อการเพาะกล้า โดยทำการหยอดเมล็ดลงถาดหลุมรดน้ำให้ชุ่ม ย้ายกล้าเมื่อมีใบแท้ 4-5 ใบหรืออายุไม่เกิน 25-30 วัน


เมื่อต้นกล้าอายุ 30 วันจึงย้ายปลูกลงแปลงหรือภาชนะที่เตรียมไว้ ถ้าปลูกลงแปลงควรใช้ระยะระหว่างต้นและแถวประมาณ 50 x 70 เซนติเมตร การให้น้ำ : มะเขือเทศเป็นพืชที่ต้องการน้ำสม่ำเสมอตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนถึงผลเริ่มแก่(ผลเปลี่ยนสี) หลังจากนั้นควรลดการให้น้ำลงมิฉะนั้นอาจทำให้ผลแตกได้