ถิ่นกำเนิดที่แน่นอนของมะพร้าวนั้นยังไม่มีข้อมูลสรุปว่าเป็นที่ใด แต่เชื่อกันว่ามะพร้าวน่าจะเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในแถบประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และต่อมามีการกระจายพันธุ์ไปทั่วโลกเช่นในปัจจุบันนี้ สำหรับในประเทศไทยสามารถพบมะพร้าวได้ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยมีทั้งพันธุ์ต้นสูงและพันธุ์ต้นเตี้ย โดยเฉพาะในภาคใต้จะพบมากกว่าภาคอื่นๆ เช่น ใน จังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช เป็นต้น


มะพร้าวเป็นพืชยืนต้นขนาดกลาง เพาะปลูกได้ดีบริเวณดินทรายหรือชายทะเล ผลมีสีเขียวอ่อนและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อแก่จัดสามารถรับประทานได้ทั้งน้ำและเนื้อ ทุกส่วนในมะพร้าว 1 ต้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมายดังนี้


• มะพร้าวผลแก่ เนื้อมะพร้าว นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆได้มากมาย ได้แก่ คั้นเป็นกะทิสดและกะทิกล่อง มะพร้าวอบน้ำผึ้ง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันไบโอดีเซล เป็นต้น


• น้ำมะพร้าว ในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับผู้หญิง จึงเหมาะในการบริโภคโดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน หรือหญิงที่ต้องการฮอร์โมนเพื่อปรับสมดุลของร่างกาย นอกจากนี้น้ำมะพร้าวยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอีกมากมาย ได้แก่ วุ้นน้ำมะพร้าว น้ำส้มสายชู และเครื่องดื่ม


• จั่นมะพร้าว เป็นแหล่งอาหารของผึ้งและแมลงต่างๆ ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการนำน้ำหวานจากจั่นมะพร้าวมาทำน้ำตาล ไว้ปรุงอาหารคาวหวาน และทำน้ำตาลสดไว้เป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานได้อย่างดี


• ยอดมะพร้าว ปัจจุบันเกษตรกรหันมาปลูกมะพร้าวตัดยอดกันมากขึ้น เนื่องจากได้ผลผลิตเร็วและเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น ซึ่งยอดมะพร้าวสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงส้ม แกงคั่ว ยำ ส้มตำ ผัด เป็นต้น


• ใบมะพร้าว เป็นวัสดุที่คนทุกยุคทุกสมัยได้นำมาทำสิ่งของเครื่องใช้มากมาย ได้แก่ ไม้กวาด กระเช้า กระจาด ตะกร้า


• ลำต้น เมื่อมะพร้าวหมดอายุหรือถูกโค่นทิ้งแล้ว ลำต้นมะพร้าวยังนำมาใช้ประโยชน์ได้อีก เช่น ทำเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ ทำฝาผนังอาคารบ้านเรือน ทำรั้ว กระถางต้นไม้ และตกแต่งจัดสวน เป็นต้น


• เปลือกมะพร้าว เป็นเศษวัสดุที่มีมูลค่าไม่น้อยเช่นกัน เพราะสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ทำที่นอน ที่เช็ดเท้า ไม้กวาด และด้วยคุณสมบัติของเปลือกมะพร้าวที่มีการเก็บความชื้นได้ดี จึงนำมาใช้ประโยชน์ในการเป็นวัสดุเพาะกล้วยไม้ และเป็นส่วนผสมของดินปลูกต้นไม้อีกด้วย


ถึงแม้มะพร้าวจะมีประโยชน์มากมาย แต่ควรรับประทานมะพร้าวในปริมาณที่พอดี โดยเฉพาะกะทิเพราะอาจทำให้ได้รับพลังงานและไขมันมากเกินไปได้ ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคตับ และโรคไต ควรบริโภคน้ำมะพร้าวแต่พอดีไม่ควรดื่มมากจนเกินไป และผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้องรังต่างๆรวมถึงผู้ที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นประจำก่อนจะบริโภคมะพร้าว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ