ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากระแสการถ่ายดาวนั้นนิยมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในกลุ่มโซเชียลหลายกลุ่มก็มีการโพสภาพถ่ายดาวมาอย่างต่อเนื่องสวยๆทั้งนั้น การถ่ายดาวสำหรับมือใหม่หลายๆ คนอาจฟังดูเป็นเรื่องยากและเกินความสามารถจนล้มเลิกกันไปก็มี แต่จริงๆแล้วการถ่ายดาวนั้นไม่ได้ยากเกินไปอย่างที่คิด เพียงแต่ก่อนการถ่ายก็จำเป็นจะต้องวางแผนเยอะหน่อย และต้องใช้ความพยายามที่มากกว่าการถ่ายวิวแบบอื่นๆเท่านั้นเอง


อุปกรณ์ในการถ่ายดาว (เบื้องต้น)


• กล้อง แนะนำเป็นกล้องที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ และเซ็นเซอร์ใหญ่หน่อยเช่น M4/3 APSC Fullframe ถ้าเซ็นเซอร์เล็กๆแบบในกล้องคอมแพคก็อาจจะเก็บรายละเอียดมาได้ไม่ดีเท่า นอกจากนั้นยังมีผลเรื่อง Noise ที่ ISO สูงๆ เซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่าก็ได้เปรียบมากกว่า


• เลนส์ แนะนำเป็นเลนส์ไวด์ ถ้าเป็นเลนส์ที่มีรูรับแสงยิ่งกว้างก็ยิ่งดี ซึ่งเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างๆก็มักจะเป็นเลนส์ฟิก ถามว่าเลนส์คิทติดมากับกล้องสามารถถ่ายดาวได้หรือไม่? ก็ต้องตอบว่าได้ แต่อาจจะได้ดาวมาไม่ค่อยเยอะ เลนส์ยิ่งรูรับแสงยิ่งกว้างก็จะถ่ายติดดาวมามากกว่า และด้วยความที่รูรับแสงไม่กว้างมากแสงเข้าน้อยกว่าอย่างเลนส์คิทอาจจะต้องเสียสปีดชัตเตอร์ที่ต้องเปิดนานกว่าอาจจะต้องดัน ISO สูงๆช่วย ทำให้ก็จะมี Noise เพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน


• ขาตั้งกล้อง ขาตั้งกล้องนี่คืออุปกรณ์สำคัญสำหรับการถ่ายดาวหรือการถ่ายสปีดช้าๆ เพราะเราไม่สามารถถือถ่ายได้ด้วยมือเปล่าอยุู่แล้ว ถ้าไม่มีก็แนะนำให้ซื้อดีๆหน่อยเพราะขาตั้งกล้องนี่ซื้อทีเดียวแล้วใช้กันยาวๆหลายปี


• สายลั่น นอกเหนือจากความนิ่งที่ได้ สำหรับกล้อง DSLR นั้นค่อนข้างจำเป็นสำหรับการถ่ายดาวหมุน แนะนำสายลั่นแบบตั้งไทม์แลปส์ได้จะดีมากๆ เพราะการถ่ายแบบดาวหมุนอาจจะต้องถ่ายหลายภาพ และอาจใช้เวลานาน การมีสายลั่นแบบตั้งเวลาได้เราก็จะทำอย่างอื่นรอได้ไม่ต้องมารอกด สำหรับ Mirrorless หรือ DSLR บางรุ่น ถ้ามีฟังก์ชั่นไทม์แลปส์ในตัวกล้องก็สบายใช้แทนกันได้เลย


• ไฟฉาย เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็นเลยก็ว่าได้ เพราะส่วนใหญ่สถานที่ๆเราจะถ่ายก็จะมืดๆ แล้วการหยิบจับกดปุ่มต่างๆก็อาจจะไม่สะดวกหรือมองไม่เห็นก็จำเป็นต้องใช้ไฟฉาย ที่สำคัญเอามาเป็นพรอพสร้างลำแสงในภาพได้ด้วยนะ


ข้อควรรู้ก่อนการถ่ายดาว เช่น ยิ่งมืดยิ่งเห็นดาว เพราะฉะนั้นสถานที่ที่เราจะถ่ายควรจะไม่มีแสงไฟน้อยๆ ควรเป็นคืนเดือนมืดที่แสงของพระจันทร์น้อยๆหรือวันที่พระจันทร์ขึ้นกลางวันยิ่งดี และถ้าต้องการถ่ายทางช้างเผือก ควรเช็คเวลา เช็คทิศทางของสถานที่ที่จะไปว่าทางช้างเผือกขึ้นพ้นเส้นขอบฟ้าเวลาไหน และวางตัวอยู่แนวไหนด้วยจะได้ไม่พลาด


จริงอยู่ที่การถ่ายดาวนั้นดูเหมือนต้องใช้ความพยายามมากกว่าการถ่ายวิวในแนวอื่นๆ เพราะนอกจากจะต้องตั้งค่าให้เหมาะสม ก็ต้องมีการทำการบ้านและหาข้อมูลวางแผนวันที่จะไปให้ดี แต่ถ้าได้อ่านบทความนี้แล้วอย่างน้อยก็ถือว่าเป็นแนวทางในการเตรียมตัวไม่ต้องไปเริ่มจากศูนย์ หรือสามารถหาข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมได้เช่นกัน