เพนกวินภักดีต่อความรู้สึกของตัวเองมาก เพนกวินมีรักเดียวและทุ่มเทเรื่องความรักเช่นเดียวกับมนุษย์ ว่ากันว่าเมื่อนกเพนกวินขอแต่งงาน พวกมันจะส่งกรวดก้อนเล็กๆไปให้คู่รักเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก
เพนกวินก็มีฟอสซิล ไม่เพียงแต่สัตว์ในยุคดึกดำบรรพ์เท่านั้นที่มีฟอสซิล เพนกวินก็มีฟอสซิลด้วยเช่นกัน พวกมันยังมีชีวิตในยุคก่อนประวัติศาสตร์อีกด้วย ในปัจจุบันฟอสซิลเพนกวินที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์ค้นพบนั้นมาจากเมื่อ 60 ล้านปีก่อน ซึ่งเกือบจะอยู่ในยุคของไดโนเสาร์ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่านกและไดโนเสาร์นั้นน่าจะเป็นวงศ์ใกล้กัน
ครีบของนกเพนกวินเปลือยเปล่าและยังสามารถวิ่งไปบนหิมะที่เย็นยะเยือกได้โดยไม่ถูกน้ำกัด เนื่องจากเพนกวินมีระบบหมุนเวียนเลือดที่เฉพาะตัว นั่นคือ การแลกเปลี่ยนความร้อนแบบทวนกระแส เมื่อยืนอยู่บนน้ำแข็งจะมีการแลกเปลี่ยนความร้อนระหว่างเลือดแดงกับเลือดดำ เลือดแดงที่อบอุ่นสามารถถ่ายเทความร้อนไปยังเลือดดำที่เย็นได้ ดังนั้นอุณหภูมิของเลือดที่ไหลไปยังเท้าและหัวใจจะใกล้เคียงกัน ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างฝ่าเท้ากับพื้นก็ลดลงเช่นกัน ความร้อนแบบนี้จะทำให้ไม่ถูกความเย็นกัดเท้า
เพนกวินเป็นนก ทำไมนกเพนกวินบินไม่ได้ ? อันที่จริงเมื่อก่อนเพนกวินก็บินได้เหมือนกับนกทั่วไป พออพยพไปยังแอนตาร์กติกเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก สภาพความเป็นอยู่ของพวกมันไม่จำเป็นต้องบิน ตอนนี้ปีกของพวกมันก็แปลงสภาพและไม่สามารถบินได้อีก
แม้ว่านกเพนกวินส่วนใหญ่จะอยู่ในทวีปแอนตาร์กติก แต่อย่าคิดว่านกเพนกวินจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในบริเวณเส้นศูนย์สูตร เพนกวินกาลาปากอสในหมู่เกาะโคลอนเป็นนกเพนกวินเพียงชนิดเดียวที่เหยียบย่ำในซีกโลกเหนือและเป็นนกเพนกวินสายพันธุ์เดียวในเขตศูนย์สูตร สำหรับเพนกวินเหล่านี้การรักษาอุณหภูมิร่างกายให้เย็นเป็นการทดสอบสติปัญญาแบบนึง เมื่ออากาศร้อนเพนกวินจะกางครีบเพื่อคายความร้อน และนกเพนกวินที่ยังไม่ได้ผสมพันธุ์ก็จะไม่อยู่บนบก แล้วเลือกที่จะกระโดดลงไปในน้ำแทน
เพนกวินกลัวความมืดไม่ใช่เพราะสายตาไม่ดี แต่เพราะกลัวถูกกินเป็นอาหารในตอนกลางคืน ศัตรูตามธรรมชาติของนกเพนกวินคือแมวน้ำ และแมวน้ำส่วนใหญ่จะออกมาหากินตอนกลางคืนและพักผ่อนตอนพระอาทิตย์ขึ้น แม้ว่าช่วงกลางคืนจะมีปลาและเคยมากกว่า แต่นกเพนกวินก็ยังชอบล่าสัตว์ในช่วงกลางวันดังเพื่อความอยู่รอดนั่นเอง