ห่าน เป็นสัตว์ปีกวงศ์เดียวกับเป็ด หงส์และนกเป็ดน้ำ จุดเด่นของห่านคือ ในเพศผู้เมื่อโตเต็มที่จะเห็นโหนกใกล้กับจงอยปากบนอย่างชัดเจน มีหลายพันธุ์ โดยทั่วไปเลี้ยงไว้เพื่อบริโภคเพราะตัวโตและให้เนื้อมาก ในไทยนิยมเลี้ยงห่านพันธุ์ Chinese มีทั้งสีขาวและสีเทา น้ำหนักตัวเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 4.5-5.5 กิโลกรัม
สำหรับประวัติและวิวัฒนาการในการเลี้ยงห่านในประเทศไทยนั้น ทางสมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทยได้ระบุได้ว่า การเลี้ยงห่านนั้นเริ่มต้นเลี้ยงตั้งแต่ยุคที่ชาวจีนอพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว โดยในระยะแรกๆแหล่งเลี้ยงห่านจะอยู่ใกล้กับริมคลอง หนองหรือบึงและถูกพบว่ามีการเลี้ยงห่านมากในบริเวณจังหวัดรอบๆกรุงเทพฯ
โดยการเลี้ยงห่านในยุคนั้นเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจผูกขาดของชาวจีน โดยสาเหตุที่การเลี้ยงห่านในประเทศไทยยังอยู่ในวงแคบๆ เพราะผู้บริโภคเนื้อห่านส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ที่ย่านเยาวราช โดยเนื้อห่านมักถูกนำมาใช้ประกอบอาหารตามภัตตาคาร ห่านจะขายดีมากเป็นพิเศษในช่วงตรุษจีนและสารทจีน
แม้ว่าคนไทยในสมัยก่อนจะไม่นิยมกินเนื้อห่านกันมากนักเ พราะเชื่อว่าเป็นอาหารแสลงและนิยมเลี้ยงไก่เพื่อส่งออกเนื้อมากกว่า แต่อิทธิพลที่ได้รับจากจีนก็ทำให้มีกลุ่มคนที่ชื่นชอบในการบริโภคเนื้อห่านอยู่ไม่น้อย ปัจจุบันการเลี้ยงห่านในประเทศไทยก็ได้กระจายไปทั่วเกือบทุกภูมิภาคโดยการเลี้ยงห่านส่วนใหญ่มักจะเลี้ยงกันตามไร่ตามสวน เพราะเป็นสัตว์ที่สามารถกำจัดวัชพืชต่างๆได้ดี
การเลี้ยงเพื่อการบริโภคไม่เป็นที่นิยมมากนัก ส่วนการเลี้ยงเพื่อความสวยงาม เลี้ยงเพื่อขายลูกห่าน และไข่ห่านจะเป็นที่นิยมมากกว่า เนื่องจากหาพันธุ์ยากเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคอยาวเหมือนหงส์ นิสัยดุร้าย แต่รู้จักเจ้าของ รวมถึงการเลี้ยงเพื่อประโยชน์ในด้านอื่นๆ อาทิ เลี้ยงเพื่อคุมฝูงเป็ด และเลี้ยงเพื่อเป็นยามเฝ้าบ้าน เป็นต้น
การเลี้ยงห่าน นั้นถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับต้นทุนการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น เนื่องจากคุณสามารถใช้งานห่านให้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยได้ด้วย เพราะห่านเป็นสัตว์เลี้ยงที่หูไวตาไว และใจกล้า ขาลุย เมื่อแลเห็นสิ่งใดหรือได้ยินเสียงอะไรแม้แต่เจ้าของก็ตาม ห่านจะส่งเสียงร้องดังๆแล้วกางปีกไล่ทันทีและปีกของมันก็แข็งแรงมากด้วย
นอกจากนี้ห่านเป็นสัตว์เลี้ยงที่ทนทานต่อโรคและความแห้งแล้ง แม้ว่านิสัยของมันชอบเล่นน้ำก็ตาม ต้องถือว่าการเลี้ยงห่านไม่เป็นภาระมากเหมือนสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ยกเว้นตอนวางไข่ซึ่งต้องจัดเตรียมสถานที่สำหรับวางไข่และให้อาหารเสริมประเภทรำ ข้าวเปลือก ปลายข้าว เปลือกหอยเปลือกปูบด ในขณะที่ห่านจะแสดงอาการดุร้ายและหวงไข่มาก จากปกติที่ห่านเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีนิสัยหวงอาณาเขตของมันอยู่แล้ว
การเลี้ยงห่านเพื่อการค้า ที่เลี้ยงตั้งแต่ 5-10 ตัว ขึ้นไป จนถึงมากกว่า 100 ตัว มักนิยมเลี้ยงด้วยการปล่อยในคอกหรือเลี้ยงปล่อยตามทุ่ง โดยมีสระน้ำหรืออ่างน้ำเพื่อให้ห่านเล่นน้ำและผสมพันธุ์ เนื่องด้วยพฤติกรรมการผสมพันธุ์ของห่านมักใช้แหล่งน้ำเป็นสถานที่ผสมพันธุ์
ส่วนการเลี้ยงเพื่อความสวยงาม มักเลี้ยงเพียง 2-4 ตัว ที่เป็นพ่อแม่พันธุ์เท่านั้น โดยการปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติในพื้นที่รอบบ้านหรือตามทุ่งนา ซึ่งผู้เลี้ยงอาจให้อาหารที่สามารถหาได้ง่าย เช่น หญ้าหรือผักชนิดต่างๆ ร่วมกับการให้ห่านหากินเองตามธรรมชาติ