แมลงปอ (ภาษาไทยถิ่นเหนือ: แมงก่ำบี้) คือแมลงที่มีตัวอ่อนอาศัยอยู่ในน้ำ ตัวเต็มวัยมีชีวิตอยู่บนบกมีปีกบินได้ แมลงปอมีการเจริญเติบโตแบบเป็นขั้นตอนประเภทไม่สมบูรณ์แบบ คือ มีระยะไข่ ตัวอ่อน และตัวเต็มวัย ไม่มีระยะดักแด้ โดยระยะไข่และตัวอ่อนมีชีวิตอยู่ในน้ำ ตัวอ่อนที่อยู่ในน้ำมีรูปร่างแตกต่างจากตัวเต็มวัยมาก เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะลอกคราบครั้งสุดท้าย กลายเป็นตัวเต็มวัยที่มีปีกและจะใช้ชีวิตบนบกได้ต่อไป
แมลงปอจัดเป็นซากดึกดำบรรพ์มีชีวิตจำพวกหนึ่ง โดยถือกำเนิดมาตั้งแต่ 320 ล้านปีก่อนในยุคคาร์บอนิเฟอรัส ก่อนหน้าไดโนเสาร์ และแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเลยมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากขนาดลำตัวที่แมลงปอในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าแมลงปอในยุคปัจจุบันมาก โดยมีความห่างระหว่างปีกมากกว่า 70 เซนติเมตร
ในอารยธรรมอียิปต์โบราณ แมลงปอปรากฏอยู่ในอักษรภาพเฮียโรกริฟฟิธในหลุมศพของฟาโรห์
ลักษณะ
ลักษณะโดยทั่วไปของแมลงปอ คือ มีลำตัวยาวเรียว ปีกสองข้างบางใสมีเส้นปีกที่สานกันถี่ละเอียดเป็นโครงคล้ายร่างแห หัวใหญ่ มีตารวม ทำให้สามารถมองเห็นได้รอบตัว หนวดสั้น เล็กเหมือนเส้นขน ยาวประมาณ 5 – 8 ปล้อง โคนหนวดปล้องแรกจะใหญ่หนาและค่อย ๆ เรียวไปจนถึงปล้องสุดท้าย ปากเป็นแบบกัดกิน ขากรรไกรแข็งแรง ส่วนอกมี 3 ปล้อง
วงจรชีวิต
แมลงปอจะมีวงจรชีวิตแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ระยะการเป็นไข่ เป็นตัวโม่ง และระยะโตเต็มวัยที่จะกลายเป็นแมลงปออย่างสมบูรณ์
โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อถึงเวลาผสมพันธุ์ แมลงปอตัวผู้จะมีช่องเปิดของน้ำเชื้อ ที่ปลายหาง แต่มันจะเอา ถุงน้ำเชื้อมาเก็บไว้ ที่อวัยะเก็บน้ำเชื้อซึ่งอยู่บริเวณหน้าอก จนเมื่อมันเจอกับตัวเมีย มันจะใช้ขาคว้าตัวเมียเอาไว้ แล้วค่อยๆ เกาะหลังตัวเมียไว้จนแน่น จากนั้นทั้งคู่ก็จะบิน เกาะกันไปกลางอากาศในท่าเดิม(tandem position) สักพักตัวเมียจะ เอาช่องเพศของตัวเองขึ้น ไปแตะที่อวัยวะเก็บน้ำเชื้อของตัวผู้ (wheel position) จากนั้น ทั้งคู่ก็อาจจะแยกกัน หรือ พากันบินไปในท่าที่ ยังเกาะกันอยู่ ก่อนที่ตัวเมียจะวางไข่ ซึ่งจะเลือกวางด้วยการดำน้ำ หรือใช้ช่วงท้องแหย่ลงในน้ำ แล้ววางไข่ให้ติดกับพืชน้ำ
เมื่อตัวเมียวางไข่แล้วจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ - 1 เดือนไข่ก็จะฝัก เมื่อไข่ฟักเป็นตัวระยะนี้จะเรียกว่า "ตัวโม่ง" ซึ่งแตกต่างจากแมลงปอที่โตเต็มวัย พวกมันมีปีกขนาดเล็กมาก และฟันล่างขนาดใหญ่ โดยจะอาศัย อยู่ในน้ำ และจับสัตว์น้ำเล็กๆ รวมถึง ลูกปู ลูกหอย ลูกอ๊อดและลูกปลา กินเป็นอาหาร ด้วยเหตุนี้ ตัวโม่งจึงจัดว่ามันเป็นสัตว์ ที่ดุร้ายมากเพราะว่ามันกินไม่เลือกเลย
ตัวโม่งหายใจในน้ำโดย ใช้เหงือกที่อยู่ในระบบการย่อยอาหารในร่างกายของมัน ที่สามารถสกัดออกซิเจน ออกมาจากน้ำได้ โดยมันจะหายใจด้วยการดูดน้ำเข้าไปในท้อง และหลังจากนั้นน้ำจะเลื่อนไปที่เหงือก ซึ่งเป็นเครื่องหายใจเพื่อสกัดออกซิเจน เมื่อได้รับออกซิเจนเพียงพอแล้ว จะพ่นน้ำออกมาอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น มันยังเป็นระบบการขับเคลื่อน ซึ่งทำงานเหมือนไอพ่น ทำให้ตัวโม่ง สามารถเคลื่อนที่ ไปในน้ำได้อย่างรวดเร็วด้วย
ตัวโม่งจะใช้ชีวิตในน้ำเป็นระยะเวลา 1-4 ปี (ขึ้นอยู่กับพันธ์)โดยระหว่างนั้น พวกมันจะลอกคราบประมาณ 10-15 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้ง ตัวก็จะโตขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย จนกระทั่ง เมื่อลอกคราบครั้งสุดท้าย
พวกมันก็จะคลาน ขึ้นไปบนกิ่งก้านพืชใกล้ผิวน้ำ แล้วเริ่มหายใจด้วยท่ออากาศ ซึ่งอยู่ภายในร่างกาย หลังจากนั้นคราบจะค่อยๆ ถูกลอกออก เริ่มจากส่วนหัว ท้อง ขา และปีก ตามลำดับ จากนั้นปีกจะค่อยๆ กางออกอย่างช้าๆ เลือดในร่างกาย จะถูกปั้มเข้าไปในปีก โดยใช้เวลาหลายชั่วโมง กว่าปีกจะแข็งแรง และกลายเป็นแมลงปอ ที่พร้อมจะบินและล่าเหยื่อ อย่างพวก ยุง เพลี้ย ยุง ริ้น แมลงวัน ผีเสื้อ ผึ้ง รวมทั้งแมลงปอด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่ มันสามารถใช้ชีวิตเป็นแมลงปออย่างสมบูรณ์ ได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
แมลงปอนับว่าเป็นแมลงที่ดุร้าย กินง่าย ไม่เลือกเหยื่อ มันกินแมลงแทบทุกชนิดและทุกตัวที่อ่อนแอกว่า แต่ที่น่าทึ่งก็คือ การบินของแมลงปอนั้น เปรียบได้กับเครื่องบินรวมเฮลิคอปเตอร์ เพราะมันสามารถบินได้ถึง 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง เมี่อเทียบกับขนาดลำตัว ที่มีความยาวไม่กี่เซนติเมตร หรือเท่ากัน 20,000 – 30,000 ช่วงตัวในแวลาเพียง 1 นาที และการขยับปีกขึ้น - ลง อย่างรวดเร็ว เฉลี่ยประมาณ 500 กว่าครั้ง / วินาที