“ภูเขาไฟฟูจิ” เปรียบดังสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ภูเขาลูกนี้ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างจังหวัดชิซุโอะกะ และจังหวัดยามานาชิ ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว โดยเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงราว 3,776 เมตร เป็นหนึ่งในทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในบทความนี้จะมานำเสนอความลับของภูเขาไฟฟูจิ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!
1. ยอดภูเขาไฟฟูจิไม่ใช่พื้นที่ของรัฐ แต่เป็นพื้นที่ของเอกชน ?!
พื้นที่ของภูเขาไฟฟูจินั้นเป็นพื้นที่ของรัฐไปจนถึงฐานที่พักสำหรับการปีนเขาสถานีที่ 7 แต่หลังจากสถานีพักที่ 8 ขึ้นไปนั้นเป็นพื้นที่ของเอกชนที่มีเจ้าของคือ "ศาลเจ้าฟูจิซังฮอนกูเซนเกนไทชะ (富士山本宮浅間大社)" นอกจากนี้ ในขณะที่พื้นที่ไปจนถึงสถานีที่ 7 ได้ถูกระบุให้เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดยามานาชิกับจังหวัดชิซูโอกะ บริเวณจากสถานีที่ 8 เป็นต้นไปนั้นไม่ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ของจังหวัดใด
2. สามารถเดินรอบปากปล่องภูเขาไฟฟูจิได้
นอกจากจะมาชมแสงแรกของพระอาทิตย์บนยอดเขาแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากเห็นก็คือปากปล่องภูเขาไฟฟูจินั่นเอง โดยเมื่อขึ้นมาถึงยอดเขาแล้ว สิ่งแรกที่จะได้เห็นอาจไม่ใช่ปากปล่อง แต่อาจเป็นศาลเจ้าให้เข้าไปกราบไหว้ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และแม้แต่ตู้กดน้ำตามสไตล์ญี่ปุ่น แต่เมื่อเดินลึกเข้าไป จะได้พบกับปากปล่องภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่มาก โดยลึกลงไปในปากปล่องภูเขาไฟฟูจิยังคงคุกกรุ่นและอาจมีวันใดที่จะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง (มีโอกาสปะทุในระดับต่ำ) นอกจากนี้ยังสามารถเดินรอบปากปล่องนี้ได้ โดยมีเส้นทางเดินวนรอบระยะทางประมาณ 4 ก.ม. ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงต่อรอบ เส้นทางบางช่วงก็ชันและลื่น แต่มีโซ่กั้นไม่ให้คนเดินเข้าไปใกล้ปากปล่องมากนัก โดยหากอยากไปให้ถึงจุดสูงสุดที่มีความสูง 3,776 จริง ๆ ก็ต้องเดินไปในเส้นทางเดินนี้ที่มุ่งไปสู่ "ยอดเคนกามิเนะ" (Kengamine Peak) ซึ่งตรงนี้จะมีป้ายเป็นสัญลักษณ์ให้ถ่ายรูปกันด้วยความภาคภูมิใจว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้มาเหยียบอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นแล้ว
3. ภูเขาไฟฟูจิกลับหัว
อีกปรากฏการณ์หนึ่งที่หายากนั่นก็คือปรากฏการณ์ภูเขาไฟฟูจิกลับหัวค่ะ เพราะจะเห็นภาพนี้ได้ในวันที่ฟ้าใส ไม่มีลมเท่านั้น หลาย ๆ คนอาจจะไม่ทราบว่าภาพภูเขาไฟฟูจิกลับหัวนี้มีให้เห็นบนธนบัตร 1,000 เยนด้วยนะคะ
4. คุณสามารถจัดงานแต่งงานบนภูเขาไฟฟูจิได้
คุณสามารถจัดงานแต่งงานได้ที่ศาลเจ้าฟูจิซังฮอนกูที่อยู่บนยอดภูเขาไฟฟูจิ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาคารศาลเจ้าหลักมีขนาดที่ไม่ค่อยใหญ่ จึงจัดได้แต่งานขนาดเล็กที่มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 10 คนเท่านั้น อีกทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว รวมไปถึงแขกที่มาร่วมงาน ยังจำเป็นต้องเดินขึ้นเขาด้วยตัวเองอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจ คุณจำเป็นต้องติดต่อทางศาลเจ้าล่วงหน้า 3 เดือนก่อนวันจัดงาน และมีเงินค่าทำพิธี 50,000 เยน + ค่าสินน้ำใจที่จะต้องมอบในระหว่างการทำพิธีในศาลเจ้า ในทุก ๆ ปีดูเหมือนว่าจะมีผู้มาจัดงานแต่งประมาณ 3 กลุ่มในช่วงฤดูปีนเขาของภูเขาไฟฟูจิ หากได้จัดงานแต่งบนยอดภูเขาไฟฟูจิพร้อมกับดื่มด่ำไปกับความภูมิใจที่ได้พิชิตภูเขาไฟฟูจิแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงอย่างแน่นอน
และทั้งหมดนี่ก็คือเรื่องเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ภูเขาไฟฟูจิมีความสวยงามที่ซ่อนอยู่มากมายขนาดนี้