ความน่าอัศจรรย์ของเครื่องบินไม่ได้มีแค่ระบบการทำงาน ที่สามารถพาตัวมันเองให้ทะยานขึ้นไปสู่ฟากฟ้า และบินไกลมากกว่า 600 ไมล์/ชั่วโมง เท่านั้น แต่มันยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ทำขึ้นมาเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือทุกท่าน แล้วก็ยังมีบางเรื่องที่ผู้โดยสารควรรู้ไว้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางนั่นเอง


1. เครื่องบินถูกออกแบบให้ทนกับฟ้าฝ่าได้


รู้หรือไม่ว่าเครื่องบินมีโอกาสถูกฟ้าผ่าได้บ่อยมาก แต่ด้วยการออกแบบเครื่องบินที่เมื่อเกิดฟ้าผ่าแล้วกระแสไฟฟ้าจะวิ่งผ่านตัวเครื่องบินไปจนออกนอกเครื่องในที่สุด โดยไม่ก่อให้ความเสียหายต่อตัวเครื่องและเกิดอันตรายต่อผู้โดยสาร


2. ทำไมต้องหรี่ไฟห้องโดยสาร ขณะที่เครื่องลงจอด


โดยเหตุผลที่ทำให้ต้องหรี่ไฟในห้องโดยสาร ขณะเครื่องลงจอดก็เพื่อให้สายตาของผู้โดยสารสามารถปรับตัวได้ดีกับความมืด หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นจะได้ทำการอพยพได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การเปิดหน้าต่างตามที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบอกนั้น ก็ถือได้ว่าเป็นการช่วยทำให้พนักงานสามารถประเมินได้ว่าภาพที่เราเห็นจากข้างนอกนควรให้ทุกคนอพยพลงไปหรือไม่ หรือว่าควรทำอย่างไรดี?


3. นั่งท้ายได้บริการดีกว่า


ผู้โดยสารส่วนใหญ่มักเลือกนั่งหน้าๆ เพราะจะได้ลงจากเครื่องเร็วๆ แต่รู้ไหมว่า บริการพรีเมี่ยมมักจะอยู่ท้ายเครื่องเนื่องจากคุณอยู่ใกล้แอร์โฮสเตสมากกว่า และดังที่แอร์โฮสเตสรายหนึ่งบอกกับนิตยสาร Business Insider “หากเป็นไปได้ เราเลี่ยงที่จะตอบสนองต่อเสียงของผู้โดยสารแถวหน้าๆ เพราะการไปเสิร์ฟผู้โดยสารรายหนึ่งหมายความว่าเราต้องจะต้องถูกขอนั่นนี่จากผู้โดยสารคนอื่นๆ ตลอดทาง และเราไม่มีว้อดก้า หมอน ที่อุดหู และแปรงสีฟันพอให้ทุกคนหรอก


4.มีที่เขี่ยบุหรี่อยู่ในห้องน้ำบนเครื่อง


นักออกแบบและสายการบินเชื่อว่าแม้จะมีข้อห้ามไม่ให้สูบบุหรี่บนเครื่อง แต่ถ้าหากมีคนฝ่าฝืนขึ้นมาอย่างน้อยเขาก็น่าจะไปสูบในห้องน้ำ ฉะนั้นเมื่อจะต้องทิ้งก้นบุหรี่ หากว่าไปทิ้งที่อื่นอาจเกิดอันตรายไฟลุกขึ้นมาได้



5.ท่านั่งที่ปลอดภัยที่สุดเวลาเครื่องตก


ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่รู้ไว้ก็ดี ว่าหากเครื่องกำลังจะตกจริงๆ ละก็ ท่านั่งที่ปลอดภัยและทำให้คุณมีโอกาสรอดชีวิตที่สุดก็คือท่านั่งก้มตัวกอดเข่า การทดสอบจำลองเหตุการณ์เครื่องบินตกพบว่า คนที่คาดเข็มขัดและและนั่งในท่าก้มตัวกอดเข่ามีโอกาสรอดชีวิตมากที่สุด



ส่วนคนที่คาดเข็มขัดแต่ไม่ได้นั่งอยู่ในท่าดังกล่าวได้รับบาดเจ็บทางศีรษะอย่างรุนแรง ส่วนคนที่ไม่ได้คาดเข็มขัดและไม่ได้นั่งอยู่ในท่าที่ว่าเสียชีวิตจากแรงกระแทก


6. ถาดพับวางอาหารคือแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี


หนึ่งในแหล่งรวมเชื้อโรคบนเครื่องบินก็คือถาดพับวางอาหารของคุณนั่นแหละ เชื่อไหมว่าสายการบินส่วนใหญ่ไม่ได้ทำความสะอาดโต๊ะที่ว่าในระหว่างเที่ยวบิน ถาดพับได้นี้เป็นที่ที่คนใช้ซบหน้านอน เปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก และแม้กระทั่งวางเท้ามาแล้ว



ฉะนั้น คิดให้ดีหากคุณอยากจะหยิบขนมที่หล่นบนถาดใส่ปากด้วยความเสียดาย อ้อ และหากคุณเกลียดกลัวเชื้อโรคมากละก็ พกทิชชู่เปียกที่มีสารกำจัดเชื้อโรคมาเช็ดทำถาดพับและที่วางแขนด้วยก็ได้ ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ อาจหันมามองแบบทึ่งในความอนามัยจัดของคุณ แต่ถ้าทำอย่างนี้แล้วสบายใจ จะไปแคร์ใครทำไมเล่า



7.รูเล็กๆ ตรงหน้าต่างคืออะไร


เจ้ารูที่อยู่ตรงหน้าต่างนั้นมีไว้เพื่อควบคุมความดันของห้องโดยสาร ซึ่งหน้าต่างบนเครื่องบินส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยอะคริลิคซ้อนกันอยู่ถึง 3 ชั้น โดยที่ชั้นนอกสุดมีเอาไว้เพื่อกันไม่ให้แตก และรักษาระดับความดันเอาไว้ ส่วนชั้นที่สองมีไว้ในกรณีที่ชั้นแรกเกิดการกระทบเข้ากับอะไรสักอย่างที่ทำให้แตก หรือเกิดความเสียหายขึ้น ทั้งนี้ชั้นที่สองจะเข้ามาช่วยคงสภาพความดันของห้องโดยสารแทนชั้นแรก



8. ประตูห้องน้ำถูกปลดล็อกได้ตลอดเวลา


ห้องน้ำบนเครื่องบินสามารถถูกปลดล็อกได้จากด้านนอกตลอดเวลาเผื่อในกรณีฉุกเฉินต่างๆ ฉะนั้น หากคิดจะแอบสูบบุหรี่หรือเล่นจ้ำจี้ในห้องน้ำละก็ คิดใหม่นะจ๊ะ เพราะแอร์โฮสเตสสามารถเข้ามาขัดจังหวะคุณได้ตลอดเวลา


9. หน้ากากออกซิเจน มีความสำคัญมาก


เมื่อความดันในห้องโดยสารลดลงอย่างเฉียบพลันเจ้าหน้ากากนี้จะตกลงมาและมีออกซิเจนให้คุณใช้แค่ 15 นาทีเท่านั้น!! อาจฟังดูน่ากลัวแต่ในความเป็นจริงเมื่อเจอกับเหตุการณ์นั้นนักบินจะร่อนเครื่องลงให้อยู่ในชั้นบรรยากาศที่สูงจากพื้นไม่เกิน 10,000 ฟุตตรงจุดนั้นคุณสามารถหายใจได้เองตามปกติแล้ว เวลาแค่ 15 นาทีจึงเพียงพออย่างมาก



10.เครื่องบินพาณิชย์ไม่มีเครื่องยนต์ ก็บินได้สบาย


แม้เหลือเครื่องยนต์ตัวเดียว เครื่องบินก็สามารถบินต่อได้อย่างสบายๆ และสามารถบินได้ไกลถึง 42 ไมล์ แม้เครื่องยนต์จะไม่ทำงานเลยก็ตาม แต่สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างการบินส่วนมากนั้น มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่เครื่องบินขึ้น-ลง ไม่ใช่ตอนที่เครื่องบินลอยอยู่บนฟ้า