ในโลกตะวันตก มีสุภาษิตที่น่าสนใจคือ "สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ แมวเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของแมว" เมื่อเปรียบเทียบกับสุนัขแล้ว แมวมักมีความลึกลับซ่อนอยู่
เเมวจะอ่อนโยน ขี้อ้อน เเละอยู่ดีๆก็ชอบเมินคุณใช่ไหมละ ขณะที่พวกมันจ้องมองคุณอย่างเงียบๆ คุณต้องระวังด้วยว่าพวกมันจะข่วนคุณเข้า
"แมวโดดเดี่ยว ที่ไม่คุ้นเคย"
การศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า มีประวัติการเลี้ยงแมวที่ย้อนกลับไปได้เกือบหมื่นปีที่แล้ว ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์
เมื่อประมาณ 5,000 ถึง 10,000 ปีที่แล้ว ในตะวันออกกลาง แมวสายพันธุ์แรกๆ คือ แมวป่าแอฟริกัน หลงเข้ามายังถิ่นฐานของมนุษย์ และพวกมันก็ได้เริ่มเลี้ยงพวกมัน
ชาวอียิปต์โบราณ ได้บอกว่าแมวสามารถป้องกันอาหารที่เก็บไว้จากสัตว์ฟันแทะได้ ชาวอียิปต์เริ่มให้อาหารที่เหลือแก่แมว เพื่อให้มันกลับมาเเละช่วยไล่สัตว์ที่จะมาขโมยอาการของพวกมัน
แมวเข้ามามีบทบาทในชีวิตของผู้คนและค่อยๆ กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน
ด้วยเหตุนี้ แมวป่าที่เป็นมิตรเหล่านี้จึงเริ่มเข้ามาอยู่ในบ้านมนุษย์และแพร่พันธุ์ เเละพวกมันคือบรรพบุรุษของแมวในปัจจุบัน
ทำไมแมวถึง "ไม่เชื่อง" เท่าสุนัข
ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ เราต้องให้นิยามความคุ้นเคยก่อน
การเพาะพันธุ์ หมายถึงการเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์ของสายพันธุ์หนึ่งเเละผสมพันธุ์กับสายพันธุ์อื่นๆ
สำหรับมนุษย์ การเพาะพันธุ์ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ การปลูกข้าวสาลี ปศุสัตว์ อื่นๆ ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้น และผลักดันอารยธรรมให้ก้าวไปข้างหน้า
แล้วทำไมแมวถึง "ไม่เชื่อง" มีสองเหตุผลหลัก:
1. "ความสัมพันธ์"ที่ไม่เเน่นเเฟ้น
การนำพวกมันมาอยู่ในบ้านนั้น จากสัตว์ป่าเป็นสัตว์เลี้ยง ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป
มนุษย์จะหาลักษณะเด่นของสัตว์ เช่น ความภักดีของสุนัข สามารถนำมาทานได้ เหตุผลเหล่านี้ นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างมนุษย์กับสัตว์ เเต่สัตว์ที่นำมาเลี้ยงในถิ่นอาศัยของมนุษย์ นั้น จะค่อยๆ สูญเสียสัญชาตญาณตามธรรมชาติสัตว์ป่าของพวกมัน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้แตกต่างโดยสิ้นเชิง ในการวิจัยที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับแมวน่าจะเกิดจากการที่แมวจับหนู ซึ่งมนุษย์ต้องการสะสมอาหาร ดังนั้นเมื่อประชากรหนูเพิ่มมากขึ้น แมวจึงกลายเป็นที่สนใจของมนุษย์มากขึ้น ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เเละเเมวจึงเกิดขึ้น
แมวไม่ส่งผลกระทบต่อการเกษตรมากนักและสามารถจับหนูได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารัก จึงทำให้แมวเข้ามาในถิ่นฐานของมนุษย์โดยปริยาย (แม้ว่าพวกมันจะเข้าสู่โลกมนุษย์เเล้ว แต่พวกมันก็ยังค่อนข้างรักความเป็นอิสระ)
ความสัมพันธ์ที่ไม่เเน่นเเฟ้นระหว่างแมวกับมนุษย์นี้ หมายความว่าไม่มีร่องรอยของการคัดเลือกโดยธรรมชาติในยีนของแมวบ้านมากนัก พูดง่ายๆ ก็คือ แมวยังคงนิสัยเหมือนเดิมมาก
2. ระยะเวลาการเลี้ยง
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับสุนัข (ประมาณ 30,000 ปี) แมวยังถูกนำมาเลี้ยงในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย
ในช่วงสองร้อยปีที่ผ่านมา ที่มนุษย์เริ่มเลี้ยงแมวอย่างจริงจัง เพื่อให้เห็นภาพคร่าวๆ สายพันธุ์แมวสมัยใหม่ส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนาในศตวรรษที่ 19 ในเกาะอังกฤษ
ดังนั้น ถ้าจะให้แมวมีลักษณะเชื่องคล้ายกับสุนัข ต้องใช้เวลานานมากในการปรับปรุงพันธุ์และเลี้ยงดูโดยวิธีเทียม
