บัวเป็นพืชล้มลุก ลักษณะลำต้นมีทั้งที่เป็นเหง้า ไหลหรือหัว ใบเป็นใบเดี่ยวเจริญขึ้นจากลำต้น โดยมีก้านใบส่งขึ้นมาเจริญที่ใต้น้ำ ผิวน้ำหรือเหนือน้ำ รูปร่างของใบส่วนใหญ่กลมมีหลายแบบ บางชนิดมีก้านใบบัว
บัวเป็นราชินีแห่งไม้น้ำ จัดเป็นพันธุ์ไม้น้ำที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของคุณงามความดี บัวหลวงชอบขึ้นในน้ำจืดออกดอกตลอดปี ชอบน้ำสะอาด อยู่ในน้ำลึกพอสมควร จะเริ่มบานตั้งแต่ตอนเช้า ก้านดอกยาวมีหนามเหมือนก้านใบ ชูดอกเหนือน้ำและชูสูงกว่าใบเล็กน้อย กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ สีขาวอมเขียวหรือเทาชมพู ร่วงง่าย กลีบดอกจำนวนมากเรียงซ้อนหลายชั้น เกสรตัวผู้มีจำนวนหลายสี
สำหรับในประเทศไทยชนิดของบัวที่ปลูกเป็นการค้ามี 6 ชนิด
1. บัวหลวง ลักษณะใบชูเหนือน้ำ เจริญเติบโตโดยมีไหลอยู่ใต้ดิน ชอนไชไปใต้พื้นดิน ใบมีขนาดใหญ่ ดอกมีทั้งดอกซ้อนและไม่ซ้อน ใบและดอกชูเหนือขึ้นน้ำ ในประเทศไทยมีอยู่ 4 พันธุ์ แต่พันธุ์ของบัวหลวงที่นิยมปลูกในปัจจุบัน ได้แก่ พันธุ์ฉัตรขาว ฉัตรแก้วและฉัตรแดง
2. บัวฝรั่ง มีถิ่นกำเนิดในเขตอบอุ่นและเขตหนาว ลักษณะคล้ายบัวหลวง ต้นอ่อน เจริญเติบโตโดยสร้างลำต้นหรือเหง้า เจริญตามแนวนอนใต้ผิวดิน ลักษณะใบมีทั้งขอบเรียบและขอบใบจัก ดอกลอยแตะผิวน้ำหรือชูเหนือน้ำเล็กน้อย ดอกมีหลายสี กลีบดอกซ้อนสวยงาม มีชื่อเรียกต่างกันตามลักษณะสีและดอก สี ตามผู้พัฒนาพันธุ์ขึ้น
3. บัวผัน บัวเผื่อน ต้นที่งอกจากเมล็ดจะเจริญตามแนวดิ่งขึ้นสู่ผิวดิน แล้วแตกก้านใบบนผิวดิน ดอกชูพ้นน้ำ บานในเวลาเช้าหรือกลางวันและหุบตอนเย็น ดอกมีกลิ่นหอมมาก เป็นบัวชนิดที่ขยายพันธุ์ได้ช้า ผสมพันธุ์ข้ามระหว่างสีต่างๆได้ง่ายโดยแมลงในธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ บัวชนิดนี้จึงเกิดสีสันต่างๆ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ขยายพันธุ์ง่าย ดูแลง่าย หาซื้อได้ตามร้านขายทั่วไป
4. บัวสาย เป็นบัวที่ชาวบ้านนิยมเก็บสายบัวมาทำอาหาร บัวชนิดนี้มีก้านใบและก้านดอกยาว สามารถขึ้นอยู่ในระดับน้ำลึกๆได้ พบได้ทั่วไปตามหนองบึงและแหล่งธรรมชาติตามชนบท มีหัวกลมๆ สายขนาดปลายนิ้วก้อย มีขนเล็กน้อย ใบมน ขอบใบจัก ดอกบานกลางคืนและหุบเวลาเช้า
5. บัวจงกลนี เป็นบัวที่พบใหม่ในธรรมชาติคาดว่าเกิดจากการแปลงพันธุ์ในธรรมชาติ ใบเหมือนบัวตระกูลบัวผัน บัวเผื่อน แต่ดอกซ้อนเหมือนบัวฝรั่ง มีเหง้าใต้ดินเจริญเติบโตในแนวดิ่ง ต้นอ่อนจะเกิดจากเหง้าใต้ดินเจริญเติบโตขึ้นมจากต้นแม่ ใบลอยอยู่แตะผิวน้ำ ดอกลอยแตะผิวน้ำเล็กน้อย
6. บัวกระด้ง จัดเป็นบัวขนาดใหญ่ที่สุด มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยวมีขนาดใหญ่ประมาณ 6 ฟุต ลอยบนผิวน้ำ ใบ ก้านใบ ก้านดอก มีหนามแหลมอยู่ทั่ว มีดอกสีขาวและสีชมพู ดอกมีกลิ่นหอมแรง บานตอนกลางคืนและหุบในตอนเช้า เป็นบัวที่ต้องใช้พื้นที่ปลูกมากและมีปัญหากอบัวหลุดลอยขึ้นสู่ผิวน้ำหากระดับน้ำที่ปลูกมีการเปลี่ยนอย่างกะทันหัน
ในจำนวนบัวทั้ง 6 ชนิดนี้ บัวหลวงนับเป็นบัวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุดและเกษตรกรปลูกมากที่สุด สามารถใช้ประกอบอาหารทั้งคาวหวาน นอกจากนี้ส่วนอื่นของบัวหลวงก็สามารถจำหน่ายและใช้ประโยชน์อื่นๆได้ เช่น ใบแห้งใช้ทำยากันยุง ต้มเป็นยาไทยบำรุงหัวใจ แก้ไขและรักษาโรคตับ ใบสดใช้ห่ออาหาร และไหลหรือรากสามารถนำมาเชื่อมเป็นอาหารหวาน มีสรรพคุณแก้ร้อนในและระงับอาการท้องร่วงได้อีกด้วย