เต่าทะเล ผู้พิทักษ์ระบบนิเวศน์ที่กำลังจะสูญพันธุ์เพราะมนุษย์


ความสำคัญของเต่าทะเลต่อระบบนิเวศทางทะเล


เต่าทะเลมีความสำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพในทะเล และเป็นตัวที่ทำให้ระบบนิเวศมีความสมดุลและสมบูรณ์ขึ้นเป็นอย่างมาก ประโยชน์ของเต่าทะเลนั้น ยังช่วยให้ระบบนิเวศของแนวปะการังสามารถคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้และทำให้พวกมันมีสุขภาพที่ดี และเต่าทะเลยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมดุลของห่วงโซ่อาหารได้อีกด้วย แต่ปัจจุบันนี้ เราเห็นการเปลี่ยนแปลงในมหาสมุทรอย่างชัดเจน เนื่องจากจำนวนของเต่าทะเลทั่วโลกได้ลดลงเป็นอย่างมากและลดลงอย่างต่อเนื่อง


เต่าตนุ – กับการรักษาพื้นหญ้าทะเลให้แข็งแรง


เต่าตนุเป็นหนึ่งในสัตว์กินพืชจำนวนน้อยที่มีขนาดใหญ่และกินหญ้าทะเล ซึ่งการแทะเล็มหญ้าอย่างสม่ำเสมอจะเพิ่มปริมาณสารอาหารและผลผลิตของใบหญ้าทะเล และจะช่วยรักษาพื้นหญ้าทะเลให้แข็งแรง ซึ่งการลดจำนวนประชากรเต่าตนุ ทำให้หญ้าทะเลยาวขึ้นและรกเกินไป จึงไปขัดขวางกระแสน้ำในทะเลและเป็นตัวกีดขวางแสงแดดที่จะส่องถึงพื้นทะเล สาเหตุนี้จะทำให้เกิดการเน่าเปื่อยของดินเพิ่มขึ้น และเกิดการสลายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเติบโตของราเมือกและก้นทะเลจะปกคลุมไปด้วยสาหร่าย เชื้อรา จุลินทรีย์ และพวกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเยอะจนเกินไป


เต่ากระ – กับการรักษารากฐานของแนวปะการัง


เต่ากระเป็นสัตว์ที่กินได้ทุกอย่าง ซึ่งหมายความว่าพวกมันกินได้ทั้งพืชและสัตว์ อย่างไรก็ตาม อาหารโปรดของพวกมันคือ ฟองน้ำทะเล ฟองน้ำทะเลจะแย่งปะการังเพื่อสร้างและขยายตัวมันเองโดยใช้พื้นที่บนแนวปะการัง และการมีเต่ากระที่มีสุขภาพดีเหล่านี้ จะทำให้มั่นใจได้ว่าจำนวนของฟองน้ำทะเล จะถูกควบคุมและไม่เยอะจนเกินไป อย่างไรก็ตาม หากจำนวนเต่ากระมีปริมาณลดลง ฟองน้ำทะเลสามารถขยายเพิ่มได้อย่างรวดเร็ว และสิ่งนี้จะทำให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการังในขั้นแรก


การทำรังของเต่าทะเล – ระบบนิเวศเนินทราย


เต่าทะเลที่ทำรังบนเนินทราย จะช่วยสร้างแหล่งสารอาหารที่มีคุณภาพและเพิ่มทรัพยากรในปริมาณที่เข้มข้น ซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับระบบนิเวศของเนินทราย ไข่เต่าทะเลจะให้สารอาหารที่สำคัญต่อเนินทราย เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ที่จะปล่อยสารอาหารให้ซึมซาบเข้าสู่ในระบบนิเวศของเนินทราย เมื่อไข่ฟักออกมา สารอาหารและของเหลวหรือเมือกของตัวอ่อน จะถูกทิ้งไว้ในเปลือกไข่



การขยายพันธุ์ของเต่าทะเลที่ทำรังบนเนินทรายนี้


หากไข่ไม่ฟักตัวออกมา สารอาหารจะซึมสู่ห่วงโซ่อาหารมากขึ้น โดยพืชสามารถดูดซับสารอาหารได้บางชนิด และบางชนิดจะกระจายไปยังสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กต่างๆที่อาศัยอยู่ในทราย สิ่งนี้จะช่วยรักษาการเจริญเติบโตของพืชพันธุ์ต่างๆในทราย ทำให้ชายฝั่งมีความสมดุลและคงเสถียรภาพของแหล่งที่อยู่อาศัย และจะเป็นแหล่งอาหารสำหรับสัตว์กินพืชหลากหลายชนิด นอกจากนี้ ยังนำไปสู่การทำรังของเต่าทะเลที่มีอิทธิพลต่อการขยายพันธุ์เป็นอย่างมาก เพราะเต่าทะเลนั้นมีส่วนสำคัญในการรักษาสมดุลของห่วงโซ่อาหาร


เต่ามะเฟือง – นักล่าแมงกะพรุน


เต่าทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ เต่ามะเฟือง และพวกมันสามารถเดินทางได้ไกลกว่าเต่าทะเลสายพันธุ์อื่นๆ โดยลำตัวอาจมีความยาวมากกว่า 2 เมตร และอาจมีน้ำหนักตัวถึง 700 กก.เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เต่ามะเฟืองกินแมงกะพรุน และพวกมันกินแมงกะพรุนเป็นจำนวนมากในทุกวัน เพื่อรักษาสุขภาพของพวกมันให้แข็งแรง.เป็นที่ทราบกันดีว่าเต่ามะเฟืองกินแมงกะพรุนประมาณ 200 กิโลกรัมต่อวัน และความอยากอาหารอย่างบ้าคลั่งของพวกมันนี้ กลับมีบทบาทสำคัญในการสร้างความสมดุลของระบบนิเวศอีกด้วย การอพยพของเต่ามะเฟือง พวกมันจะอพยพข้ามมหาสมุทรและในขณะที่พวกมันกินแมงกะพรุนจำนวนมากนี้ ทำให้พวกมันกลายเป็นนักล่าแมงกะพรุนอันดับต้นๆในทะเล


เต่าทะเล ตัวช่วยหาแหล่งที่อยู่อาศัยและอาหาร


เต่าทะเลเกือบจะเป็นระบบนิเวศในตัวของมันเอง พวกมันเป็นตัวช่วยหาแหล่งที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ทะเลอื่นๆ และเป็นตัวช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางชีวภาพระหว่างสายพันธุ์ต่างๆได้เป็นอย่างมาก.มีการระบุว่า บนกระดองของเต่าหัวค้อน มีแบคทีเรียและสิ่งมีชีวิต (Epibiont) อาศัยอยู่มากกว่า 100 สายพันธุ์เพรียง สาหร่ายหรือตะไคร่น้ำ และแบคทีเรียอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่บนเต่าหัวค้อนนั้นเป็นแหล่งอาหารสำหรับปลาขนาดเล็กและกุ้งที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง.



เต่าทะเล & เหล่าแบคทีเรีย


พวกปลาพยาบาลและเหล่ากุ้งตัวเล็กๆ จะช่วยทำความสะอาดเวลาที่เต่าทะเลว่ายผ่าน ซึ่งเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ทั้งปลาและกุ้ง ส่วนเต่าทะเลที่ได้รับการทำความสะอาด บริเวณเล็บ หนังและกระดองนี้ จะช่วยลดการต้านน้ำ ทำให้มันคล่องตัวขึ้นขณะว่ายน้ำรอบมหาสมุทร มีแม้กระทั่งสายพันธุ์ของปลาตระกูล Wrasse ที่จะกินเฉพาะเพรียงที่พบบนกระดองเต่าตนุเท่านั้น เมื่อพวกเต่าทะเลว่ายไปมา คุณมักจะเห็นพวกตระกูลปลาเหาทะเล ที่จะติดมาพร้อมกับเต่าทะเล (โดยเฉพาะตัวที่ใหญ่กว่า)



เต่าทะเลกับความสัมพันธ์ทางชีวภาพ


เหล่าปลาเหาทะเล จะกินพวกปรสิต เช่น พวกแพลงก์ตอนสัตว์หรือโคพีพอดส์ Copepods ที่ติดมากับกระดองของเต่าทะเล และจะคอยกินส่วนที่เต่าทะเลลอกคราบร่วงออกมา รวมทั้งเศษอาหารเล็กๆ ที่เต่าทะเลไม่กิน ความสัมพันธ์แบบนี้เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ทั้งสำหรับเต่าทะเลและเหาทะเล เนื่องจากพวกมันจะเกาะติดและเคลื่อนตัวไปพร้อมกับเต่า และเต่าช่วยปกป้องมันจากผู้ล่า แต่เนื่องจากจำนวนเต่าทะเลยังคงลดลง ปลาและกุ้งบางชนิดจึงถูกบังคับให้เปลี่ยนวิธีการเอาชีวิตรอดแบบใหม่ไปโดยปริยาย แต่ประสบความสำเร็จน้อยลงและมีชีวิตรอดน้อยกว่าแบบเดิม



ทำไมการอนุรักษ์เต่าจึงมีความสำคัญ? หากเต่าทะเลหายไป ไม่เพียงแต่เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับมนุษยชาติเท่านั้น แต่ยังคุกคามชีวิตของสัตว์ทะเลอื่น ๆ ด้วย นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเต่าทะเลมีความสำคัญต่อสุขภาพของระบบนิเวศทางทะเล และทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนว่าทำไม