สีเขียวในอาหารมักเป็นที่น่าสนใจและมีความหลากหลาย เป็นสีที่สดใสและมีความสมบูรณ์ทางโภชนาการดังนั้น
แกงเขียวหวานเป็นอาหารไทยที่นิยมในภาคกลางและเป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยมีรสชาติหวานจากกะทิ รสชาติขมจากใบโหระพา และรสชาติเค็มจากเนื้อสัตว์
อีกทั้งมีกลิ่นหอมอ่อนๆจากใบมะกรูด และความเผ็ดน้อยๆ จากพริกขี้หนู ทำให้เป็นเมนูที่มีรสชาติที่สมบูรณ์และหลากหลาย มักจะเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ถือว่าเป็นอาหารเมนูจานโปรดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เมื่อมีโอกาสไปร้านอาหารชื่อดัง แน่นอนที่อดใจไม่ไหวที่จะสั่งแกงเขียวหวาน ด้วยรสชาติของแกงเขียวหวานที่สมดุลกันอย่างลงตัว ไม่จืดหรือเผ็ดมากเกินไป เมนูนี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติหวานๆ วันนี้จะมาบอกเคล็ดไม่ลับเอาใจสายที่ชอบทานแกงเขียวหวานกัน
ส่วนผสมหัวใจหลักมีดังนี้
1. เนื้อหมูหรือเนื้อไก่ (หรือวัตถุดิบตามความชอบ) 500 กรัม
2. น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนต๊ะ
3. ใบโหระพา 10 ใบ
4. พริกแกงเขียวหวาน 40 กรัม
5. น้ำสะอาด 1 ถ้วย
6. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
7. กะทิ 250 มล.
8. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
9. มะเขือเปราะ
ขั้นตอนการทำ
1. นำพริกแกงเขียวหวานที่เตรียมไว้ไปผัดกับน้ำมันโดยใช้ไฟอ่อน ผัดให้ได้กลิ่นหอม หลังจากนั้นนำกะทิใส่ลงไป เคี่ยวให้กะทิแตกมัน
2. เติมน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน เมื่อเห็นว่าสีเขียวเริ่มกลมกล่อม ให้นำเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ใส่ลงไป เมื่อเนื้อสัตว์เริ่มสุกแล้ว นำมะเขือเปราะใส่ลงไป ทิ้งไว้ประมาณ3นาที
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว ทิ้งไว้ประมาณ1นาที หลังจากนั้นตักใส่ถ้วยพร้อมรับประทาน
นอกจากจะเป็นเมนูที่ทำง่ายมาก ยังมีสรรพคุณอันเต็มเปี่ยม
1. ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เพราะผักและเครื่องเทศที่ใช้ในแกงเขียวหวานมีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคและป้องกันการเกิดอาการอักเสบในร่างกาย
2. เสริมกระดูกและฟันเพราะผักใบเขียวที่ใช้ในแกงเขียวหวานเช่น ใบโหระพา มีแคลเซียมและวิตามินเอที่เสริมสร้างกระดูกและฟัน เสริมสร้างระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
3. มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ใบโหระพาและพริกขี้หนูเขียวภายในแกงเขียวหวานเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ เช่น ภูมิคุ้มกันลดลง โรคหัวใจและหลอดเลือด และมะเร็ง
ขอเชิญชวนทุกท่านมาทำแกงเขียวหวานด้วยกันค่ะ! แกงเขียวหวานเป็นอาหารไทยที่อร่อยและขั้นตอนการทำง่ายมากมีรสชาติหอม หวาน เผ็ด ที่น่าติดใจมาก ลองทำดูแล้วแบ่งปันรสชาติและความสุขกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ และอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำอัดลมเย็นๆ เพื่อดับรสเผ็ดและเพิ่มความสดชื่นให้กับมื้ออาหารด้วยนะคะ
