การจัดดอกไม้ ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์ เพราะจะต้องใช้ดอกไม้ที่แตกต่างกันในหลากหลายสี การไล่โทน การนำเอาดอกไม้หรือใบไม้ ตลอดจนวัสดุต่างๆมาจัดให้อยู่ในองค์ประกอบทางศิลปะ ซึ่งต้องมีความสัมพันธ์กันและทำให้เกิดมุมมองที่สวยงาม นับได้ว่าเป็นศิลปะและวิวัฒนาการที่สืบทอดกันมาช้านาน การจัดดอกไม้โดยส่วนใหญ่นิยมจัดเลียนแบบดอกไม้สดธรรมชาติ และที่นิยมที่สุดคงหนีไม่พ้นโทนสีขาวและสีชมพูนั่นเอง
ความจริงแล้วดอกไม้จัดแจกันนั้นสามารถเลือกดอกไม้ชนิดใดก็ได้ โดยที่นิยมก็อย่างเช่น กุหลาบ ทิวลิป กล้วยไม้ ลิลลี่ เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะเลือกดอกไม้ชนิดไหน สีสันของดอกไม้แต่ละดอกควรไปในโทนเดียวกัน เช่น สีขาว สีชมพู สีม่วง หรือจะเลือกดอกไม้หลายสีแต่คุมโทนร้อนโทนเย็นก็ได้ การเลือกดอกไม้ต่างชนิดกันมาจัดแจกันจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้มากขึ้น นอกจากนี้อย่าลืมเลือกดอกไม้เล็กๆมาช่วยเพิ่มมิติให้กับแจกันด้วย
มากไปกว่านั้นสีสันของดอกไม้ที่แตกต่างกัน ความหลากหลายของชนิดดอกไม้ที่ไม่เหมือนกัน ก็ยังมีส่วนช่วยลดระดับความเครียด เพิ่มความสุข อารมณ์ดีให้แก่ผู้ที่พบเห็นได้เช่นกัน โดยเฉพาะสีชมพูและสีขาวนอกจากจะมองแล้วสบายตาชวนให้สบายใจแล้ว ดอกไม้สองสีนี้ล้วนมีความหมายไปในทางบวก ความหมายดีๆ เช่น สื่อถึงความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ความจริงใจ ความอ่อนโยน ความรักและความหวังดีแบบเต็มร้อยเต็มใจ ความหมายของสองสีนี้ล้วนสื่อถึงเรื่องดีๆทั้งนั้น ผู้คนถึงนิยมมาจัดช่อ จัดแจกัน และมอบเป็นของขวัญนั่นเอง
นอกจากการนิยมจัดดอกด้วยดอกไม้สองสีนี้แล้ว ยังต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆในการจัดดอกไม้ด้วย
1. ความนิยม เช่น ดอกกุหลาบขาว ชมพูนิยมใช้ในงานมงคล ดอกบัวใช้บูชาพระ
2. ขนาด ควรเลือกให้เหมาะกับภาชนะ สถานที่ตั้ง และแบบของการจัด
3. การเลือกสี ต้องดูฉากด้านหลัง และจุดประสงค์ว่าต้องการ ความกลมกลืน
4. ถ้าเป็นดอกไม้สด ก็ให้ดูความทนทานของดอกไม้กับสภาพแวดล้อมนั้นๆด้วย
การจัดแจกันดอกไม้สามารถจัดได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความชอบของเรา แต่สิ่งสำคัญก็คือการเลือกจัดให้สมดุลและเหมาะสมกับบริเวณที่เราจะนำไปตกแต่ง เช่น การจัดดอกไม้ในห้องนอนอาจเลือกโทนสีอ่อน เย็นสบายตา การจัดดอกไม่ในห้องนั่งเล่นอาจเลือกโทนสีสดใส ส่วนการจัดดอกไม้ในห้องครัวก็เลือกสีโทนร้อนเพื่อเพิ่มความอยากอาหาร เป็นต้น แต่ถ้าคิดอะไรไม่ออกดอกไม้สีชมพูและสีขาว คือสีที่เหมาะกับทุกโอกาสและความหมายก็สื่อไปด้านบวกอีกด้วย
