แม้ประเทศญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองอาทิตย์อุทัย ทว่าเรามักจะได้เห็นฝนตกเกือบทุกวัน ซึ่งปัญหาที่แม่บ้านญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะพบในช่วงหน้าฝนนี้ คือผ้าที่ซักไว้ไม่แห้ง ตากเสื้อผ้าในห้องก็ไม่แห้งสนิท มีกลิ่นเหม็นอับชื้น ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ อาจทำให้ผ้าสะสมเชื้อโรคแบคทีเรีย จนเกิดเชื้อราขึ้นบนเสื้อผ้าได้ ด้วยปัญหานี้ทำให้แม่บ้านญี่ปุ่นหลายคน มีวิธีการซักผ้าที่แตกต่างออกไป เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาการซักผ้าในหน้าฝนโดยเฉพาะ โดยไม่จำเป็นต้องจ้างร้านซักผ้า


ปัญหาเสื้อเหม็นอับจะกวนใจเราแล้ว เสื้อผ้าของเรายังกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดีอีกด้วย ยิ่งในวันฝนตกแล้ว ต่อเราให้เราย้ายมาตากในห้อง ก็แห้งไม่สนิทเท่ากับการตากผ้ากลางแจ้ง หรืออบผ้าให้แห้งสนิท หากเราปล่อยไว้จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนัง และโรคภูมิแพ้อื่น ๆ ได้



ซึ่งถึงแม้ว่าการจ้าง ร้านซักผ้า ให้มาซักผ้า-รีดผ้าแทนเรา จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าเสื้อผ้าสะอาดจริง ไม่มีเชื้อโรค แถมใช้บริการบ่อย ๆ ยังทำให้เสียเงินเพิ่มขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าแม่บ้านสายประหยัดคงไม่อยากเปลืองเงินไปกับการซักผ้าบ่อย ๆ เป็นแน่


5 วิธีซักผ้าสไตล์แม่บ้านญี่ปุ่น สะอาดเหมือน ร้านซักผ้า


ถึงแม้ว่าการซักผ้าจะเป็นเรื่องง่าย แต่การซักเสื้อผ้าให้สะอาดหมดจด ไร้เชื้อโรคนั้น ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้! ยิ่งเป็นการซักผ้าในหน้าฝนด้วยแล้ว ยิ่งยากกว่าการซักผ้าในวันปกติแน่นอน เพราะวันที่ฝนตก แดดจะน้อยลงทำให้เสื้อผ้าแห้งไม่สนิท หรือใช้เวลาตากผ้านานกว่าปกตินั่นเอง ส่วนใครที่กลุ้มใจกับการซักผ้าในหน้าฝนอยู่ อย่าพึ่งเครียดไป



1. เลือกน้ำยาซักผ้าที่ช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว ไร้กลิ่นอับ


วิธีแรกที่จะช่วยให้เสื้อผ้าแห้งไวและไร้กลิ่นอับชื้นได้แบบชัวร์ ๆ คือการเลือกน้ำยาซักผ้าที่เหมาะกับเสื้อแห้งยากนั่นเอง ด้วยสาเหตุที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีฝนตกบ่อย ทำให้บริษัทผู้ผลิตน้ำยาซักผ้าในญี่ปุ่น ต่างคิดค้นพัฒนาน้ำยาซักผ้าสูตรใหม่ ให้เหมาะสำหรับการซักผ้าในช่วงหน้าฝนโดยเฉพาะ



นอกจากนี้น้ำยาซักผ้ายังมีคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการตากผ้า และอบผ้าในร่มอีกด้วย ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น ป้องกันกลิ่นอับชื้น ฆ่าเชื้อโรคบนเสื้อผ้า ให้เสื้อหอมสะอาดเหมือนจ้างร้านซักผ้า


2. ใช้เครื่องลดความชื้นพร้อมฟังก์ชั่นการอบผ้า


แม่บ้านญี่ปุ่นหลายครอบครัว เลือกใช้เครื่องลดความชื้นภายในบ้าน เพื่อดูดความชื้นของอากาศ โดยเลือกเครื่องดูดความชื้นที่มีมัลติฟังก์ชั่นสำหรับอบผ้าโดยเฉพาะ มีระบบเป่าลมร้อน ทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น แน่นอนเครื่องดูดความชื้นไม่ได้มีราคาถูก และอาจใช้ได้เฉพาะบางฤดูกาลเท่านั้น จึงไม่เหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทยที่มีอากาศร้อนและอุณหภูมิสูง



3. ใส่ผ้าขนหนูแห้งในเครื่องซักผ้าก่อนถ่ายน้ำทิ้ง


สำหรับใครที่มีเครื่องซักผ้าที่บ้าน มักจะคุ้นเคยกับระบบถ่ายน้ำทิ้งของเครื่องซักผ้าอยู่แล้ว ระบบถ่ายน้ำทิ้งนี้ก็เพื่อทำความสะอาดถังก่อนการซักผ้านั่นเอง โดยก่อนที่เราจะตั้งโปรแกรมให้เครื่องซักผ้าถ่ายน้ำทิ้งนั้น ให้เราใส่ผ้าขนหนูแห้งลงไปปั่นด้วย เพราะผ้าขนหนูจะช่วยซับน้ำ ทำให้ถังแห้งไวขึ้น แต่มีข้อควรระวังอย่างนึงคือ ก่อนที่จะนำผ้าลงไปซัก เราควรตรวจสอบในถังว่ามีเศษผ้าขนหนูหรือฝุ่นติดมาด้วยไหม เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าของเรามีเศษผ้าขนหนู หรือฝุ่นติดมากับเสื้อผ้าของเราด้วยนั่นเอง


4. ตากผ้า 3 แบบ ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น


แม่บ้านญี่ปุ่นมีเทคนิคเฉพาะในการตากผ้าที่ไม่ซ้ำใคร เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าแห้งไวขึ้น แม้จะเป็นในช่วงหน้าฝนก็ตาม โดยวิธีการตากผ้าสไตล์ญี่ปุ่น มี 3 แบบด้วยกัน ดังนี้


ตากผ้ากลับด้าน – การตากแบบกลับด้านจะช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าหนา หรือมีกระเป๋าเสื้อ ส่วนของตะเข็บเสื้อจะแห้งยากกว่าปกติ เราจึงควรกลับด้านของเสื้อผ้าก่อนการตากผ้าทุกครั้ง จะช่วยให้เสื้อแห้งไวทันใจแน่นอน



ตากผ้าแนวโค้ง – ถ้าหากเราตากผ้าโดยใช้ไม้หนีบผ้า ให้ตากผ้าโดยแยกขนาดของเสื้อผ้า โดยเอาเสื้อที่มีขนาดยาวสุด ตากไว้ด้านนอก เสื้อผ้าที่มีขนาดเล็กหรือสั้นกว่า ให้ไว้ด้านใน วิธีนี้จะช่วยให้ลมสามารถถ่ายเทได้สะดวก ช่วยให้ผ้าแห้งไวขึ้น



ตากผ้าห่างจากกำแพง – หากเราตากผ้าในห้อง ให้ตากผ้าโดยเว้นระยะห่างจากกำแพงประมาณ 5 ซม. หรือตากผ้าบริเวณกลางห้อง จะช่วยให้อากาศถ่ายเท ผ้าแห้งเร็วกว่าเดิม


5. ปูหนังสือพิมพ์ใต้ราวตากผ้า


อีกวิธียอดฮิตที่แม่บ้านญี่ปุ่นใช้กันอย่างแพร่หลาย คือการใช้หนังสือพิมพ์วางใต้เราตากผ้า โดยเราสามารถใช้หนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้ว นำมาขยำเป็นก้อน ๆ จากนั้นวางไว้ใต้ราวตากผ้า วิธีนี้จะช่วยให้เสื้อแห้งเร็วขึ้น เพราะกระดาษหนังสือพิมพ์ช่วยดูดซับน้ำและความชื้นจากผ้าที่ตากอยู่บนราว ทำให้ผ้าแห้งไวกว่าเดิม ง่ายมาก ๆ เลย