สำหรับคนทำงานและพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างน้อยประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ยากที่จะหลีกเลี่ยงการนั่งในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องเป็นระยะเวลานานซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดตามคอ บ่า ไหล่ หลัง และเข่า หรือปวดเมื่อยตามร่างกาย ล้วนเป็นสัญญาณเตือนอันตรายจาก โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ที่จะลุกลามเป็นปัญหาเรื้อรังต่อไปได้


โลกยุคดิจิทัลทำให้การนั่งทำงานหน้าจอเป็นสิ่งจำเป็น ทำอย่างไรจะป้องกันปัญหาการนั่งผิดท่าที่ต้นทาง? การปรับเก้าอี้และท่านั่งให้ถูกสุขลักษณะจะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอาการปวดต่างๆ ได้


1. ควรปรับระดับเก้าอี้ให้พอดีกับส่วนสูงของตัวเอง


ระดับความสูงของเก้าอี้ที่พอดี จะทำให้ไม่ต้องก้มหรือเงยมากเกินไป ทำให้สรีระอยู่ในทิศทางที่ผิดรูปแบบและส่งผลให้เกิดอาการปวด สำหรับการปรับระดับเก้าอี้ควรให้เหมาะพอดีกับส่วนสูง โดยให้เข่าสามารถงอได้ 90 องศา เท้าวางระนาบและทิ้งน้ำหนักได้เท่ากันกับขาทั้งสองข้าง


2. ปรับเลื่อนเบาะรองนั่งให้เข่าทำมุม 90 องศา


นอกจากระดับความสูงแล้ว การปรับเลื่อนเบาะรองนั่งให้พอดีก็สำคัญ ควรปรับให้เบาะรองนั่งมีระยะห่างระหว่างข้อพับเข่ากับเบาะรองนั่งประมาณ 2-3 นิ้ว โดยที่เข่ายังทำมุม 90 องศาอยู่


3. ปรับระดับที่วางแขนให้พอดีกับโต๊ะทำงาน


ที่พักแขนหรือที่วางแขนควรพอดีกับโต๊ะทำงาน เพราะการวางสรีระของแขนที่ถูกต้องจะช่วยลดอาการเกร็งของคอ บ่า ไหล่ ได้เป็นอย่างดี


4. ปรับเบาะรองศีรษะให้พอดีกับคอ


เบาะรองศีรษะจะช่วยให้ลำคอ และศีรษะอยู่ในท่าตรง ลดอาการเมื่อยล้าจากการนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์นานๆ โดยระดับศีรษะ ระดับสายตา ควรพอดีกับระดับจอของคอมพิวเตอร์ เพื่อไม่ให้ก้มหรือเงยคอมากเกินไป


5. ปรับพนักพิงให้รองรับหลังส่วนล่าง


เก้าอี้ควรสามารถปรับพนักพิงให้รองรับหลังส่วนล่างได้ และต้องปรับเอนเมื่อต้องการพักผ่อนระหว่างวัน