หากพูดถึงซาฮารา ใครๆก็นึกถึงภาพทะเลทรายอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตากับแสงแดดที่ต้องทรายจนแทบจะกลายเป็นสีทอง นั่นคือซาฮาราผู้ยิ่งใหญ่ พื้นพิภพทะเลทรายที่บ่งบอกความหฤโหดของการเอาตัวรอดและการไร้จุดสิ้นสุด ต้องคนในพื้นที่เท่านั้นที่เป็นผู้นำทางให้กับนักท่องเที่ยวที่อยากเข้าไปเยี่ยมชม แต่มาวันนี้ทะเลทรายผู้ยิ่งใหญ่ถูกการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมาเคาะประตูถึงหน้าบ้านแล้ว จากการมาเยือนของขั้วตรงข้ามอย่าง ‘หิมะอันเยือกเย็น’
ทะเลทรายซาฮาราเป็นทะเลทรายร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่มากกว่า 8.6 ล้านตารางกิโลเมตร ข้ามแอฟริกาตอนเหนือระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลแดง ส่วนอุณหภูมิปกติของทะเลทรายซาฮาราคือ 58 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน
นับเป็นเรื่องที่หลายคนต่างประหลาดใจ เมื่อหลายประเทศในโลกเกิดหิมะตกลงมาโดยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างเช่น ประเทศลาว ที่สร้างความแปลกใจให้กับคนทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีหิมะตกในประเทศเวียดนามหรื ในหลายประเทศทั่วโลกที่มีหิมะตกอยู่แล้วก็ตกหนักขึ้นมาอีก เช่น สเปน ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้
เมืองอินเซฟราในประเทศแอลจีเรียถูกเรียกว่าประตูสู่ทะเลทราย อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตร และล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอตลาส ซึ่งทะเลทรายซาฮาราครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของแอฟริกาเหนือ แม้ว่าในปัจจุบันทะเลทรายแห่งนี้จะเป็นพื้นที่แห้งแล้ง แต่คาดว่าอีกประมาณ 15,000 ปี ข้างหน้าพื้นที่แห่งนี้จะกลับมาเขียวชอุ่มและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ทะเลทรายซาฮารามีแนวโน้มที่จะเห็นหิมะตกในระดับสูงมากขึ้น เช่น ในเทือกเขาแอตลาส ปี 2018 นาซาได้แถลงการณ์การสังเกตจากอวกาศ โดยระบุว่าฝั่งโมร็อกโกของเทือกเขาแอตลาสมีหิมะตกหนักเช่นกันในปี 2005 และ 2012
ในปี 2016 หิมะตกลงในบริเวณดังกล่าว ทำให้เด็กๆออกมาปั้นตุ๊กตาหิมะหรือแม้กระทั่งเล่นเลื่อนหิมะบนเนินทราย และจากการวัดความหนาของหิมะนั้น มีความหนามากขึ้น 40 ซ.ม.ตั้งแต่ปี 1979 และปี 2018 ทำให้การจราจรติดขัด สถานการณ์เช่นนี้ รวมถึงหิมะตกในทะเลทรายซาฮารา ความหนาวเย็นที่ยาวนานแถบอเมริกาเหนือ สภาพอากาศอบอุ่นมากในแถบยุโรป และฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมในประเทศต่างๆเกิดขึ้นบ่อยมากขึ้น สภาพอากาศสุดโต่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำบ่อยครั้งเหตุเพราะภาวะโลกร้อน
แต่อย่างไรก็ตาม การระบุสภาพอากาศสุดขั้วในภูมิภาคหรือพื้นที่ของซาฮารายังไม่สมบูรณ์เพราะขาดข้อมูลและการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ รายงานจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (IPCC) ซึ่งเป็นหน่วยงานชั้นนำของโลกด้านวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศ ได้รายงานไว้เมื่อปี 2018 ว่า สภาพอากาศที่ร้อนขึ้น แห้งแล้งขึ้น และรูปแบบสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงนั้นเชื่อมโยงกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศในแอฟริกา หมายความว่าทะเลทรายซาฮารามีขนาดใหญ่ขึ้นเนื่องจากมีพื้นที่หลายส่วนแปรสภาพเป็นทะเลทรายเพิ่มขึ้น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศเหล่านั้นมันไม่ได้ไปไหนไกลตัวของเราเลย มันกำลังเกิดการแปรปรวนขึ้นทั่วโลก จากภาวะโลกร้อนและพฤติกรรมของมนุษย์เราเอง ที่ไปเป็นเชื้อเพลิงให้โลกใบนี้เผาไหม้ตัวเองเร็วขึ้น เปรียบเสมือนโลกเริ่มรีสตาร์ทตัวเองใหม่ เพื่อกำจัดผู้อ่อนแอออกไป หากยังอยากเป็นมิตรที่ดีต่อโลกใบนี้ เราต้องร่วมมือกันรักษาสิ่งแวดล้อมและควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สูงไปมากกว่านี้ด้วยพฤติกรรมของเราเอง