นกกระจอก เป็นนกที่พบได้ทั่วไปตามป่า ตามบ้านเรือน ถือเป็นนกที่พบมากเมื่อเทียบกับนกชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะนกกระจอกบ้านที่พบเห็นได้ตามบ้านเรือนหรือแหล่งชุมชน โดยมักเรียกรวมนกกระจอกชนิดอื่นว่า นกกระจอก ทั้งนี้นกกระจอกที่พบในประเทศไทยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ชนิด คือ
1. นกกระจอกบ้าน (Tree sparrow, Passer montanus)
2. นกกระจอกตาล (Passer flaviolus)
3. นกกระจอกป่าท้องเหลือง (Passer rutilans)
4. นกกระจอกใหญ่ (Passer domestricus)
นกกระจอกมีลักษณะลำตัวตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ มีขนาดความยาวปีกขึ้นอยู่กับขนาดลำตัว รูปร่างปีกมีลักษณะแหลม มีขน primary จำนวน 10 เส้น สีขนมีสีน้ำตาลและปนด้วยสีอื่นๆ เช่น สีเหลือง สีแดง สีดำ และสีเทา จะงอยปากเป็นกรวยแหลมสั้น เหมาะสำหรับการจิกและกะเทาะเมล็ดธัญพืช
นกกระจอกที่เราพบกันคุ้นตามักจะเป็นนกกระจอกบ้านเพราะชอบอยู่ใกล้ชิดกับคน มักทำรังบนต้นไม้ใกล้บ้านเรือนหรือทำใต้หลังคาบ้าน นกชนิดนี้มีลำตัวยาวประมาณ 14 เซนติเมตร ปีกสั้นมน ขนสีดำ กลางหัวไปถึงหลังมีสีน้ำตาลเข้ม โดยรวมแล้วแทบจะแยกความแตกต่างจากนกกระจอกกับนกกระจอกใหญ่ออกจากกันไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะนกกระจอกชนิดไหนก็มีความสามารถในการจิกกัดพืชผลไม่แพ้กัน เพราะชอบบินออกไปจิกอาหารกันเป็นฝูงใหญ่ เมื่อถึงแหล่งอาหารจะแยกย้ายกันกัดกินในวงกว้าง แต่หากเจอภัยจะรีบบินกลับกันเป็นฝูงทันที ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมากและควบคุมได้ยากโดยเฉพาะในการทำการเกษตรแปลงใหญ่ต่างๆ
นกกระจอก ถูกจัดเป็นหนึ่งในศัตรูพืชที่มักจะเข้ามาก่อกวนสร้างปัญหาทำลายผลผลิตในนาข้าวตั้งแต่เริ่มหว่านข้าวไปจนถึงช่วงข้าวตั้งท้อง ทำให้ผลผลิตไม่มีคุณภาพและได้ปริมาณน้อยลง เพราะนกกระจอกนั้นจะมีพฤติกรรมแก่งแย่งอาหารเพื่อให้อยู่รอดเนื่องจากประชากรนกมีจำนวนมาก และนกสามารถค้นหาและจดจำพื้นที่ที่อุดมไปด้วยอาหารได้ดี โดยเฉพาะบริเวณโล่งแจ้งอย่างนาข้าวที่สามารถโฉบกินจิกอาหารได้ง่าย
นอกจากนาข้าวแล้วแปลงพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ เช่น แปลงพริก แปลงผลไม้และธัญพืช ก็ยังถูกนกกระจอกจู่โจมจนทำให้ผลผลิตต่างๆเสียหายไปตามๆกัน จึงกลายเป็นศัตรูพืชที่เกษตรกรจะต้องหาวิธีการกำจัดและทำให้เกิดต้นทุนในการผลิตขึ้น
วิธีการที่เรานิยมใช้เพื่อขับไล่นกกระจอกนั้น คือ การใช้คนไล่สำหรับแปลงเกษตรขนาดเล็ก หรือทำหุ่นไล่กาไล่ในแปลงขนาดใหญ่ บ้างก็ใช้เสียงให้นกกระจอกตกใจแล้วบินหนีไป หรือใช้สิ่งที่เคลื่อนไหวได้เมื่อโดนลมให้นกตกใจ แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีการไหนก็ตาม เมื่อใช้ไปซักระยะนกกระจอกจะเกิดการเรียนรู้และปรับตัวได้ ทำให้การขับไล่ต่างๆไม่เป็นผล
ดังนั้นการขับไล่นกกระจอกนั้นจะต้องพยายามสลับวิธีการไปเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความกลัวอย่างต่อเนื่อง ใช้เสียงซักพักก็ต้องเปลี่ยนเป็นของเคลื่อนไหวได้ สลับกันไปมาอย่างนี้จะได้ผลกว่า