ช้างถือว่ามีความสำคัญมากในระบบนิเวศ ช้างสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่สัตว์ป่าต่าง ๆ มากมาย เช่น ขนาดตัวที่ใหญ่ของมันช่วยเดินเปิดเส้นทางให้สัตว์สายพันธุ์อื่น ๆ การสร้างแหล่งน้ำโดยการใช้งาขุดเจาะพื้นดินเพื่อให้สัตว์อื่น ๆ มีแหล่งน้ำใช้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการกระจายเมล็ดพันธุ์พืชไปยังส่วนต่าง ๆ ของผืนป่าผ่านการขับถ่าย


ทว่า ปัจจุบันจำนวนที่อยู่อาศัยของช้างมีจำนวนลดลง เนื่องจากการบุกรุกพื้นที่ป่าของมนุษย์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของช้าง ส่งผลให้พื้นที่อาศัยของพวกมันไม่ปลอดภัยอย่างที่เคยเป็น จนก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง ปัญหาเหล่านี้ยิ่งทำให้คุณภาพชีวิตของช้างแย่ลง อีกสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการบุกรุกพื้นที่ป่าก็คือ โรงงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นความต้องการด้านทรัพยากร หรือการซื้อที่ดินเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้นจึงทำให้ช้างและสัตว์สายพันธุ์อื่น ๆ ต้องเผชิญกับปัญหาการถูกรุกรานเอาเปรียบและมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์ในที่สุด บทความนี้ได้รวบรวม 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับช้าง ทั้งช้างสายพันธุ์เอเชียและสายพันธุ์แอฟริกา มาให้คุณอ่านเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้ตระหนักถึงความสำคัญของช้างต่อระบบนิเวศและร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน


1. ช้างจะกินวันละ 12-18 ชั่วโมง


จากการสำรวจของ National Geographic ช้างสามารถกินอาหารได้มากถึง 150 กิโลกรัมต่อวัน ถือเป็นปริมาณที่เยอะมากสำหรับสัตว์กินพืช อาหารของช้างส่วนใหญ่ประกอบด้วย หญ้า ผลไม้ ผัก และ พุ่มไม้


2. ช้างเห็นภาพดีงามในยามราตรี


ด้วยช้างเป็นสัตว์ขนาดใหญ่แต่ละวันต้องกินอาหารและน้ำปริมาณมากจึงใช้เวลาหาอาหารเกือบทั้งวันทั้งคืน พักผ่อนนอนหลับเพียงวันละ 3-4 ชม. ช้างทุ่งแอฟริกามักจะหลบความร้อนในตอนกลางวันและชอบหากินกลางคืนมากกว่ากลางวัน ส่วนช้างป่าแอฟริกาและช้างป่าเอเชียหากินภายในป่าที่ร่มแสงรำไรในช่วงกลางวัน ยิ่งกลางคืนแสงจะน้อยมาก ด้วยเหตุนี้เพื่อดำรงชีวิตที่ดีมีคุณภาพช้างจึงพัฒนาการให้ตามองเห็นภาพชัดเจนในที่แสงน้อย มุมมองการรับภาพติดตั้งตาไว้ข้างหัวทำให้เห็นภาพได้เกือบรอบตัว การรักษาสุขภาพตาใช้ขนแข็งติดไว้ที่ขอบตาบนและล่างดักจับขี้ผงแล้วใช้งวงปัดออกที่ดวงตา ใช้หนังตาเปิดปิดผงฝุ่นจากลมหรือกิ่งไม้ นอกจากนี้ยังใช้น้ำตาไหลออกมาหล่อลื่นและชะล้างตาอยู่เสมอ ๆ จนดูเหมือนว่าช้างเศร้าเสียใจจึงร้องไห้อยู่ตลอดเวลา


3. ช้างสามารถสร้างเกราะป้องกันแสงแดดได้


ช้างมักถูกมองว่า ชอบเล่นโคลน และ ชอบคลุกฝุ่น ในวันที่อากาศร้อน ชั้นของฝุ่นที่ปกคลุมผิวช่วยปกป้องช้างจากการถูกแสงแดดทำลาย ช้างแอฟริกาและเอเชียอาศัยอยู่ในสภาวะที่อุณหภูมิและรังสียูวีรุนแรง วิธีในการปกป้องผิวของพวกเขาจะช่วยให้พวกเขาเย็นลงเมื่ออุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นและช่วยปกป้องจากพวกปรสิต


4. ช้างป่าเป็นสัตว์สังคม


ช้างอยู่รวมกันเป็นฝูง เราเรียกว่า “โขลง” ซึ่งในโขลงนี้จะประกอบด้วยช้างผู้นำที่เป็นช้างตัวเมีย ตัวใหญ่ที่สุด มีอายุเยอะพร้อมกับประสบการณ์ในการนำทางและดูแลฝูงมากที่สุด เราเรียกช้างผู้นำนี้ว่า “จ่าโขลง” หรือ “แม่แปรก (อ่านว่า แม่-ปะ-แหรก)” และช้างตัวเมียที่อาจจะเป็นน้อง ลูกหรือหลานของช้างแม่แปรกในแต่ละโขลง และช้างตัวผู้ที่ยังไม่โตเต็มวัย แต่เมื่อช้างตัวผู้โตเต็มวัยแล้ว มันจะถูกช้างตัวเมียขับออกจากฝูงให้ออกไปหากินเองหรือไปรวมกลุ่มกับช้างตัวผู้วัยรุ่นตัวอื่น ๆ วิธีนี้เป็นการป้องกันการผสมพันธุ์ระหว่างเครือญาติของช้างป่า ทำให้ช้างป่ามีพันธุกรรมที่หลากหลายหรือทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้มากขึ้น


5. หนังช้างปราการต้านร้อนหนาว


หนังช้าง อ่อนนุ่ม ยับย่น และหนา คุณสมบัติทั้งสามนี้ใช้ในภารกิจที่ต่างกัน ความหนาของหนังส่วนที่หนาที่สุดคือ 2-3 ซม. อยู่ที่หลังและด้านข้าง ใช้ในการบุกป่าผ่าดงหนาม ดงหญ้า ดงพง อ้อ แขม ที่มีใบคมราวมีดโกน หนังที่อ่อนนุ่มมีเส้นประสาทมากมายรับความรู้สึกได้ดีแม้แต่เพียงแมลงตัวเล็ก ๆ มาเกาะความรับรู้นี้จะมีการสั่งให้งวงจับใบไม้ หรือหางมาปัดไล่แมลง หรือถ้ามีดินฝุ่นก็ใช้งวง ดูดพ่น ตาม ตัวเลย ความหนาวปกป้องด้วยชั้นไขมันบาง ๆ รองไว้ใต้ผิวหนัง แต่เรื่องระบายความร้อนเป็นใหญ่ต้องใช้หลายวิธี เริ่มตั้งแต่ใช้เส้นเลือดกระจายใกล้ผิวหนังเป็นแถบทั่วตัวเพื่อให้คายความร้อน หากต้องการลดความร้อนแบบเร่งด่วนก็ลงอาบน้ำ พร้อมทั้งใช้ความยับย่นที่ผิวหนังกักเก็บความชื้นซึ่งดีกว่าหนังเรียบ 5-10 เท่า ทำให้เย็นสบายนานขึ้น หากต้องการลดความร้อน ปกป้องแดดเผา และไล่แมลง ก็ลงอาบดินโคลน


นี่คือข้อเท็จจริงที่เตือนเราว่าช้างนั้นน่าทึ่งเพียงใด สัตว์ที่สวยงามเหล่านี้สมควรได้รับการปกป้องจากเราทุกคน เห็นแบบนี้แล้ว เรามาปกป้องช้างกันนะ