การวิ่งจ๊อกกิ้งถือเป็นการออกกำลังกาย ที่ทำง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรแต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเกินความคาดหมาย ไม่ว่าคนที่อยากวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก หรือวิ่งเพื่อสุขภาพที่ดี การจ๊อกกิ้งก็ช่วยให้คุณบรรลุถึงเป้าหมายได้ และบทความนี้จะมาแนะนำถึงประโยชน์จากการวิ่งจ๊อกกิ้ง จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ


การวิ่งกับการจ๊อกกิ้ง แม้จะจัดอยู่ในหมวดหมู่ของการวิ่งเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายลักษณะ อย่างง่าย ๆ ที่เราสามารถจำแนกได้ก่อนเลยก็คือเรื่องของความเร็ว


• การวิ่งแบบทั่วไปจำเป็นต้องใช้ความเร็วตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงระดับความเร็วสูง ส่วนการวิ่งจ๊อกกิ้งจะใช้ความเร็วในระดับที่ต่ำไปจนถึงระดับปานกลาง หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการวิ่งที่ใช้ความเร็วในระดับชิล ๆ วิ่งไปชมวิวไป ไม่เร่งรีบ


• การวิ่งโดยปกติจะใช้การก้าวที่ยาวกว่าการจ๊อกกิ้ง ขณะที่การ วิ่งจ๊อกกิ้ง จะมีจังหวะก้าวเท้าที่สั้นกว่า


• การวิ่งจำเป็นต้องใช้ความฟิตของร่างกายมากกว่า เนื่องจากต้องใช้พลังงานสูงในการวิ่งแต่ละรอบ


• การวิ่งจ๊อกกิ้ง จะเน้นความแข็งแกร่งและความอดทนมากกว่าความเร็ว


ประโยชน์ของการวิ่งจ๊อกกิ้ง


1.ช่วยลดน้ำหนัก


วิ่งจ๊อกกิ้ง ถือเป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่เป็นผลดีต่อการลดน้ำหนัก แต่ถึงแม้การจ๊อกกิ้งจะช่วยลดน้ำหนักได้จริง ก็จำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยอื่น ๆ ควบคู่ด้วย เช่น ความเร็วที่ใช้ในการวิ่ง ระยะทางในการวิ่ง น้ำหนักตัว


2. ช่วยกระตุ้นสมองให้สามารถผลิตสารเอ็นดอร์ฟิน


ประโยชน์ของการวิ่งจ๊อกกิ้งยังช่วยกระตุ้นสมองให้สามารถผลิตสารเอ็นดอร์ฟินจนหลั่งออกมา ซึ่งสารนี้เป็นสารเคมีธรรมชาติที่มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวด และช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้ได้อีกด้วย


3. ช่วยฝึกความอดทนให้ร่างกาย


ช่วยให้ร่างกายและจิตใจแข็งแกร่งขึ้น ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะหากวิ่งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สุขภาพร่างกายก็จะแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น


4. กระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด


เพราะการวิ่งจ๊อกกิ้งถือเป็นการออกกำลังกายลดน้ำหนักแบบคาร์ดิโอชนิดหนึ่ง โดยจะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด ส่งผลให้หัวใจทำงานได้เป็นอย่างดียิ่งขึ้น


5.ทำให้ปอดมีพลัง และแข็งแรงมากขึ้น


โดยการที่กระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด ส่งผลให้ปอดทำงานได้เป็นอย่างดียิ่งขึ้น


ทั้งนี้การวิ่งจ๊อกกิ้งให้ได้ผลควรวิ่งอย่างน้อย 10 นาทีต่อเนื่อง โดยสามารถวิ่งด้วยความเร็วคงที่ หรือจะวิ่งจ๊อกกิ้งช้า ๆ สลับเร็วก็แล้วแต่สะดวก ซึ่งสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มวิ่งใหม่ ๆ การวิ่งจ๊อกกิ้งติดต่อกัน 10 นาทีอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ควรตั้งเป้าไว้ให้วิ่งได้ยาว ๆ ถึง 10 นาทีโดยไม่มีการหยุดเดิน อย่างไรก็ตาม การวิ่งจ๊อกกิ้งเพื่อสุขภาพควรต้องวิ่งอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ โดยจะวิ่งสลับการเดินยาว ๆ แบบไม่หยุดพักในช่วงแรกที่วิ่งจ๊อกกิ้งก็ได้ ร่างกายจะได้ไม่เกิดความตึงเครียดจนเกินไป แต่ในวันต่อ ๆ ไปก็ควรเพิ่มความเข้มข้นในการวิ่งให้มากขึ้น โดยลดเวลาการเดินยาว ๆ ให้น้อยลง และวิ่งเหยาะติดต่อกันได้ไม่น้อยกว่า 10 นาที ลักษณะการวิ่งแบบนี้ถึงจะได้ประโยชน์ต่อร่างกาย


การวิ่งจ๊อกกิ้งเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย และประหยัดมาก ๆ ดังนั้นอย่ารอช้าค่ะ อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและรูปร่างที่ดีก็มาออกวิ่งจ๊อกกิ้งกันเถอะ!