เสือเป็นแมวตัวใหญ่ที่มีพลังเยอะมาก แม้ว่าเสือจะดุร้าย แต่ก็ได้รับความรักจากผู้คนมากมาย
คุณรู้ข้อเท็จจริงสนุกๆเกี่ยวกับเสือหรือไม่?
1. มีเสืออยู่ในกรงมากกว่าในป่า ตามสถิติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสือสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยประมาณ 95% เนื่องจากการเสื่อมโทรมและการกระจายตัวของสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยา ปัจจุบันมีเสือโคร่งประมาณ 3,900 ตัวอาศัยอยู่ในป่า และในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 มีอยู่ประมาณ 100,000 ตัว กล่าวคือ อัตราการลดลงของเสือในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาสูงถึง 96% เพราะเสือโคร่งถูกคุกคามในป่า คาดว่ามีเสือโคร่งประมาณ 8,000 ตัวที่ถูกกักขังในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในสหรัฐอเมริกามีจำนวนประมาณ 5,000 (หรือมากกว่า) ซึ่งรวมแล้วเกิน 10,000 ตัว แต่การขาดกฎระเบียบในการเพาะพันธุ์ดังกล่าวได้นำไปสู่การสั่งห้ามการค้าเสือโคร่งในตลาดมืดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
2. ลายบนตัวเสือคือ "บัตรประจำตัว"
ไม่มีเสือสองตัวบนโลกที่มีลายเหมือนกัน ดังนั้นในสายตาของนักวิทยาศาสตร์ ลายของเสือจึงกลายเป็น "บัตรประจำตัว" ที่ไม่ซ้ำกันซึ่งใช้ระบุตัวตนได้ นักวิจัยยังได้พัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อระบุลายบนขนเสือเพื่อติดตามเสือที่รอดตายและติดตามที่มาของหนังเสือที่ล่ามาได้
3. "รอยสัก"เท่ๆ แม้ว่าเสือจะถูกโกนขนแล้ว ลายของเสือก็จะไม่หายไป แต่ลายนั้นไม่ใช่เส้นลายธรรมชาติบนผิวเสือ แต่เป็นลวดลายที่เกิดจากรูขุมขนสีเข้มบนผิวหนังที่เปลือยเปล่า
4. เสือในสายตาคน กับ เสือในสายตาเหยื่อ ในฐานะราชาแห่งป่า ถ้าเสือตัวมีสีเขียวจะช่วยในการล่าเหยื่อหรือเปล่า ? อันที่จริง สีที่ดีที่สุดในการพรางตัวนั้นขึ้นอยู่กับการมองเห็นของเหยื่อหรือของผู้ล่า จากการจำลองของนักวิทยาศาสตร์ เมื่อเสืออยู่ในป่า เหยื่อของมันจะมองไม่ค่อยเห็น เพราะมันจะกลมกลืนไปกับธรรมชาติแบบลงตัวสุดๆ
5. เสือดำมีอยู่จริง เสือขาวเป็นเสือโคร่งกลายพันธุ์ที่หายากของเสือโคร่งเบงกอล ในเมื่อเสือขาวมีอยู่จริงแล้วเสือดำล่ะ ? เสือดำ (เสือโคร่งเมลานิสติก) มีอยู่จริงในธรรมชาติ และแถบสีดำบนตัวของพวกมันนั้นมีสีเข้มและใหญ่กว่าปกติ แม้กระทั่งบริเวณที่มีขนสีเหลืองอยู่เยอะแต่แถบสีดำก็หนากว่า บางครั้งก็มีแบบปะติดกันจนเป็นแถบสีดำขนาดใหญ่
6. ฉี่เสือมีกลิ่นเหมือนข้าวบาสมาติและป๊อปคอร์น เป็นที่รู้กันว่าเสือโคร่งใช้ปัสสาวะเพื่อทำเครื่องหมายอาณาเขตและส่งสัญญาณ ทำให้นักวิทยาศาสตร์มีโอกาสศึกษาปัสสาวะของเสือ ปัสสาวะเสืออาจมีกลิ่นเหมือนอาหารบางชนิด ตามการวิเคราะห์ของนักวิจัยเรื่องของเหลวของเสือ เช่น ปัสสาวะของเสือเบงกอลมีกลิ่นของข้าวบาสมาติ ปัสสาวะของเสือโคร่งไซบีเรียมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและกลิ่นป๊อปคอร์น
7.เสือชอบอยู่ริมน้ำ ในฐานะที่เป็น "แมวตัวใหญ่" แต่เสือโคร่งชอบน้ำเป็นพิเศษ เสือโคร่งส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่ริมน้ำ ไม่เพียงแต่ในป่าเท่านั้น แต่ในกรงขัง สระน้ำสะอาดๆสามารถส่งเสริมสุขภาพของเสือได้อย่างมาก