ผีเสื้อมีสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตแตกต่างกันไปตามชนิดของผีเสื้อ ผีเสื้อสายพันธุ์ทั่วไปชอบเกาะอยู่บนกิ่งไม้และใบไม้ และบางชนิดชอบเกาะอยู่บนหน้าผา ผีเสื้อยังชอบอาศัยอยู่ใกล้สถานที่ที่มีน้ำอีกด้วย โดยเฉพาะแหล่งน้ำเค็มเล็กน้อย ซึ่งดึงดูดผีเสื้อได้มากที่สุด ผีเสื้อตัวเต็มวัยใช้ปากแบบดูดกินดูดน้ำหวาน น้ำผลไม้ ยางไม้ น้ำตาลข้าวงอกหรือของหมักดอง และยังดูดน้ำจากลำธารหรือตะไคร่น้ำ อุจจาระของนกและสัตว์ และของเหลวในร่างกายของซากสัตว์ ผีเสื้อมีอยู่หลายสายพันธุ์และมีนิสัยการกินต่างกัน .


ผีเสื้อตัวเต็มวัยจะเคลื่อนไหวในเวลากลางวัน ส่วนใหญ่แต่ละสายพันธุ์จะเคลื่อนไหวมากขึ้นระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 16.00 น. แต่ผีเสื้อวงศ์ผีเสื้อขำหน้ำพู่และวงศ์ผีเสื้อสีน้ำตาล นั้นจะเคลื่อนไหวกว่าในตอนเช้าและตอนเย็น ที่อยู่อาศัยของพวกมันแตกต่างกันไปตามชนิดของแมลง โดยทั่วไปแล้วพวกมันชอบเกาะอยู่บนกิ่งไม้และใบไม้ และบางสายพันธุ์ชอบเกาะอยู่บนหน้าผา โดยทั่วไปผีเสื้อจะหากินเพียงตัวเดียว แต่บางชนิด (เช่น ผีเสื้อจักรพรรดิ) ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง


ในช่วงกลางวันที่ผีเสือออกหากิน แต่ละสายพันธุ์มีนิสัยและที่อยู่อาศัยที่เป็นเอกลักษณ์ เช่นผีเสื้อไกเซอร์อิมพีเรียล มันเกาะอยู่บนยอดไม้ แล้วเริ่มบินอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง บินไปบินมา แต่ไม่เคยบินลงมาเกาะที่พื้น อีกตัวอย่างหนึ่งคือผีเสื้อดุ๊กจุดแดงที่กำหนดอาณาเขตของตัวเอง มันชอบดักจับผีเสื้อที่บินผ่านมา และบินขึ้นบินลงด้วยกัน แล้วก็กลับมาที่เดิมเมื่อผ่านไปได้สักพัก จุดประสงค์คือเพื่อดักจับผีเสื้อตัวเมียพันฑุ์เดียวกัน ในตอนที่ผีเสื้อสายพันธุ์นี้ดักจับเหยื่อ แม้ว่ามันจะตกใจแต่ก็บินกลับมาได้ ผีเสื้อหลายตัวมีเส้นทางบินเฉพาะเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วพวกมันจะบินลงมาจากยอดเขาตอน 8 หรือ 9 โมงเช้า และเริ่มบินขึ้นผาไปในตอนบ่าย 3 หรือ 4 โมงเย็น ผีเสื้อจัดเป็นสัตว์เลือดเย็นชนิดหนึ่ง ซึ่งเวลาออกหากินพวกมันจะได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิ เมื่ออุณหภูมิลดลงผีเสื้อจะหยุดเคลื่อนที่ทันที


ผีเสื้อไม่เก็บเกสรเพราะละอองเกสรไม่สามารถให้พลังงานและสารอาหารได้ มันบินไปที่น้ำหวานที่ขับออกมาจากต่อมน้ำต้อยในดอกไม้ แต่เมื่อมันเก็บน้ำหวานเพราะจัวของผีเสื้ออยู่ใกล้ก้นดอก ร่างกายของมันจึงสัมผัสกับเกสรตัวผู้ ทำให้ร่างกายของมันมีละอองเกสรปกคลุม


น้ำหวานเป็นอาหารหลักอย่างหนึ่งของผีเสื้อ และละอองเกสรจะเกาะติดไปกับผีเสื้อโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อเก็บน้ำหวาน ผีเสื้อกินน้ำหวานและผีเสื้อสะสมน้ำหวานไว้เพื่อกินเอง ซึ่งแตกต่างจากผึ้งที่เป็นการสร้างประโยชน์ให้กับตระกูลรวงผึ้ง ผีเสื้อที่เก็บน้ำหวาน มีหน้าที่ในการแพร่กระจายละอองเรณูซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการผสมเกสรของพืช



ผีเสื้อไม่ได้ชอบดอกไม้ทุกชนิด แต่โดยทั่วไปชอบดอกไม้ที่มีสีสันสดใส ด้วยเหตุนี้ดอกไม้ส่วนใหญ่ที่อาศัยแมลงเป็นหลักในการผสมเกสรจึงมีสีที่สว่างกว่าซึ่งสามารถดึงดูดให้ผีเสื้อดูดน้ำหวานและกระจายละอองเรณูได้



ประการที่สอง ผีเสื้อมักชอบดอกไม้และพืชที่มีละอองเกสรจำนวนมาก มีเกสรตัวเมียอยู่ด้านนอก และมีช่วงเวลาออกดอกตรงกับช่วงโตเต็มวัย



สุดท้าย ผีเสื้อแต่ละสายพันธุ์ชอบดอกไม้แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น ผีเสื้อรักแร้ขาวชอบดูดน้ำหวานจากพืชวงศ์ลิลี ผีเสื้อเล็กสีขาวชอบดูดน้ำหวานจากพืชวงศ์ผักกาด ผีเสื้อลายเขาสูงชอบดูดน้ำหวานจากพืชวงศ์ทานตะวัน และผีเสื้อหางติ่งนางละเวงชอบต้นมะแขว่น