เที่ยวโครเอเชีย (Croatia) ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวแห่งยุโรป “สาธารณรัฐโครเอเชีย” ตั้งอยู่ระหว่างยุโรปกลางใต้ และตะวันออก ล้อมรอบไปด้วยทิวทัศน์ของน้ำทะเลสีฟ้าใส ทอดยาวเหนือจรดใต้ราวกับภาพวาดของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ให้อารมณ์ยุโรปเก่าแก่แบบคลาสิคแม้ว่าจะเป็นประเทศที่เกิดใหม่ทีมีอายุยังไม่ถึง 30 ปี แต่ประเทศแห่งนี้มีเมืองสวยอยู่มากมายไม่แพ้ประเทศอื่นในยุโรปเลย


1.ดูบรอฟนิก (Dubrovnik)


“ดูบรอฟนิก” (Dubrovnik) เมืองสวยริมฝั่งทะเลอาเดรียติก (Adriatic Sea) ที่ดีงามทั้งทิวทัศน์และบรรยากาศที่เงียบสงบและแสนสบาย ในอีกด้านหนึ่งเมืองดูบรอฟนิกได้ชื่อว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์แห่งโครเอเชีย แต่เดิมดูบรอฟนิกเคยใช้ชื่อ “รากูซา” (Ragusa) มาเปลี่ยนเป็นดูบรอฟนิกอย่างในปัจจุบันเมื่อปี 1808 ต่อมาปี 1994 ส่วนพื้นที่เขตเมืองเก่าดูบรอฟนิกก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ หากได้เดินชมภายในเขตเมืองเก่าเราจะได้เห็นอาคารในยุคก่อนซึ่งยังถูกรักษาไว้อย่างดี สวยงามด้วยหลังคากระเบื้องสีส้มตัดกับตัวอาคารสีขาว มีแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองชิ้นโตอย่าง “พระราชวังสปอนซา” (Sponza Palace) และ “พระราชวังเรคเตอร์” (Rector’s Palace) ที่สวยงามสุดอลังการในสไตล์โกธิกเรเนสซองส์ มี “กำแพงแห่งดูบรอฟนิก” (Wall of Dubrovnik) ความยาว 2 กิโลเมตรล้อมรอบตัวเมืองไว้ซึ่งก็กลายเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญและน่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากันเลย


2.เมืองฮวาร์ (Hvar Town)


ฮวาร์(Hvar) เกาะสวรรค์ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลเอเดรียติก ใกล้ชายฝั่งดัลเมเชียน เกาะที่เต็มไปด้วยแสงแดดเกือบตลอดทั้งปี ชายหาดสวยงามน้ำทะเลสีฟ้าครามสะท้อนแสงอาทิตย์ระยิบระยับ หาดทรายโค้งเว้า มากมายด้วยเรือยอทช์ เป็นที่ดึงดูดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการล่องเรือยอทช์ เนื่องด้วยอุณหภูมิอบอุ่นมากด้วยแสงแดด ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์มากด้วยพืชผลทางการเกษตร สวนมะกอก สวนผลไม้ ทุ่งลาเวนเดอร์



ฮวาร์(Hvar) มีชื่อเสียงมากในเรื่องการปลูกลาเวนเดอร์ได้รับฉายาว่าเป็น “Island of lavender” เมื่อถึงช่วงซัมเมอร์จะพบเห็นดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งละลานตา



“เมืองฮวาร์”(Hvar Town) ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ มีมรดกทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ โบสถ์ โรงละคร ป้อมปราการบนเนินเขาที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างสวยงาม ย่าน Stari Grad ย่านท่องเที่ยวเดินเล่นเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะฮวาร์ มากด้วยเสน่ห์ของตรอกซอย อาคารสีขาวสะอาดตา โบสถ์เก่าแก่ ร้านอาหารท้องถิ่นมากมาย



ส่วนตำแหน่งแลนด์มาร์กของฮวาร์เราขอมอบให้ป้อมปราการโบราณที่เคยถูกใช้เป็นฐานทัพทหารสมัยอาณาจักรเวเนเชียนและยังคงตั้งอยู่บนเนินเขาทางตอนเหนือของเมือง มีกำแพงเมืองเก่าที่สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ร่วมด้วยจัตุรัสกลางเมืองและหอนาฬิกาที่ล้วนแต่เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดชมทั้งสิ้น


3.สปลิท (Split )


สปลิท(Split) เมืองท่าใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งดัลเมเชียน และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของโครเอเชีย(Croatia) สปลิท(Split) ถูกล้อมรอบด้วยทะเล และได้รับความนิยมมากที่สุดของชายฝั่งดัลเมเชียน เมืองสปลิท(Split)เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมแบบผสมผสาน ผ่านการปกครองของโรมัน ออสเตรีย ฝรั่งเศส อิตาลี เมื่อในอดีต มีชายหาดที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหมาะแก่การเพลิดเพลินพักผ่อนอย่างเต็มที่ไปกับกิจการทางน้ำ หรือปล่อยใจชิวๆ ไปกับบรรยากาศริมท่าเรือสุดวิเศษ



สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองสปลิท(Split) ก็คือ



พระราชวังดิโอคลีเชียน(Diocletian Palace) สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 4 ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ในปี ค.ศ.1979 พระราชวังดิโอคลีเชียน(Diocletian Palace) แห่งนี้ยังคงความงดงามของสถาปัตยกรรมโรมันไว้ได้อย่างสมบูรณ์ พระราชวังสร้างจากหินปูสีขาวจากเกาะบราช(Brac) ของประเทศโครเอเชีย พระราชวังดิโอคลีเชียน(Diocletian Palace) เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ “Game of Thrones”



เมื่อมาถึงเมืองสปลิท(Split) นอกจากสถานที่ชื่อดังอย่างพระราชวังดิโอคลีเชียน(Diocletian Palace) แล้วก็ต้องห้ามพลาด


ย่านเมืองเก่าสปลิท ที่มีอาคารบ้านเรือน ทางเดินทำด้วยหินเก่าดูคลาสิค น่าเดินเล่นทอดน่องเป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงจัตุรัส Republic Square ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของย่านเมืองเก่า โดดเด่นที่อาคารสีแดงสไตล์นีโอเรเนสซองส์


4.โรวินจ์ (Rovinj)



หนึ่งในเมืองงดงามที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองตากอากาศชื่อดังแห่งโครเอเชียและเป็นเมืองท่าโบราณ เน้นความงามแบบดั้งเดิมวิถีชาวประมงแบบโครเอเชีย มีรีสอร์ทสวยๆ สไตล์ยุโรปให้เข้าพัก และแถมยังขึ้นชื่อเรื่องความเป็นส่วนตัวสูงมาก ไม่วุ่นวาย เมืองนี้ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรอิสเตรีย ผู้คนสามารถพูดได้สองภาษา อิตาลีและโครเอเชีย เนื่องจากในสมัยก่อนมีการค้าขายระหว่างประเทศกับอิตาลีและการอพยพ ตัวอาคารจะถูกปลูกสร้างบนเนินเขาเตี้ยๆ ล้อมรอบไปด้วยโรงแรมสไตล์รีสอร์ททอดยาวตลอดทางทั้งเหนือและใต้ของเมือง